ระนอง -จังหวัดระนอง จัดปฐมนิเทศ ชาวมุสลิมผู้ด้อยโอกาสที่ได้รับการคัดเลือกไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอารเบีย จำนวน 21 คน อบจ.ระนองหนุนงบกว่า 2ล้าน
วันนี้(4 พ.ย.52) สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดระนอง ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ได้จัดปฐมนิเทศชาวมุสลิมผู้ด้อยโอกาสที่ได้รับการคัดเลือกให้ไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอารเบีย จำนวน 18 คน และเจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 21 คน ตามโครงการส่งเสริมกิจกรรมศาสนาอิสลามเพื่อผู้ด้อยโอกาสประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.ระนอง เป็นเงิน 2,500,000 บาท โดยมีนายนิรวัชช์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดปฐมนิเทศที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมผู้นำศาสนาและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดี อุทิศตนและเสียสละช่วยเหลือสังคมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอารเบีย โดยคณะผู้แสวงบุญจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ โดยขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต และเดินทางกลับในวันที่ 10 ธันวาคม 2552
รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า การประกอบพิธีฮัจย์ ถือเป็นการปฏิบัติศาสนกิจที่สำคัญของผู้นับถือศาสนาอิสลาม จึงขอให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกได้ศึกษาหาความรู้และประสบการณ์จากสถานที่จริง เพื่อนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและสังคมต่อไป.
วันนี้(4 พ.ย.52) สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดระนอง ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ได้จัดปฐมนิเทศชาวมุสลิมผู้ด้อยโอกาสที่ได้รับการคัดเลือกให้ไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอารเบีย จำนวน 18 คน และเจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 21 คน ตามโครงการส่งเสริมกิจกรรมศาสนาอิสลามเพื่อผู้ด้อยโอกาสประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.ระนอง เป็นเงิน 2,500,000 บาท โดยมีนายนิรวัชช์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดปฐมนิเทศที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมผู้นำศาสนาและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดี อุทิศตนและเสียสละช่วยเหลือสังคมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอารเบีย โดยคณะผู้แสวงบุญจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ โดยขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต และเดินทางกลับในวันที่ 10 ธันวาคม 2552
รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า การประกอบพิธีฮัจย์ ถือเป็นการปฏิบัติศาสนกิจที่สำคัญของผู้นับถือศาสนาอิสลาม จึงขอให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกได้ศึกษาหาความรู้และประสบการณ์จากสถานที่จริง เพื่อนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและสังคมต่อไป.