พิจิตร - ชาวนาพิจิตรทนที่ฝืดเคืองจากราคาข้าวตกต่ำไม่ไหวหันพลิกวิกฤตเป็นโอกาส แปรรูปเพิ่มมูลค่าข้าว ทำเส้นขนมจีนขายสร้างรายได้ให้กับชุมชน
นางสุกัญญา พุ่มพฤกษ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/2 ชาวบ้านคลองคู้ หมู่ที่ 4 ตำบลท่าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งราคาข้าวเปลือกก็ตกต่ำ จึงคิดวิธีนำข้าวที่ได้จากการทำนามาแปรรูปเป็นเส้นขนมจีนขายเพื่อสร้างรายได้เสริมอีกทั้งชาวบ้านบางรายยึดเป็นอาชีพหลัก ซึ่งเริ่มต้นทำกับญาติๆ เพียงไม่กี่คนด้วยการนำข้าวสารมาแช่น้ำประมาณ 1 วัน หรือ 12 ชั่วโมง แล้วนำมาโม่ด้วยเครื่องให้ข้าวละเอียดเป็นน้ำแป้ง ขณะโม่ให้นำแป้งข้าวเจ้าหรือแป้งสำเร็จรูปผสมลงไปเพื่อให้แป้งแข็งตัวเร็วขึ้นตามอัตราส่วน 1 ต่อ 1
หลังจากนั้น นำแป้งที่โม่ผสมแล้วมาหมักในผ้าดิบทิ้งไว้อีกประมาณ 1 วัน เพื่อให้แป้งแข็งตัวจากนั้นนำแป้งมาต้มในน้ำเดือดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วนำแป้งดังกล่าวขึ้นมาตีกับแป้งมันอีกครั้งหนึ่งสำหรับแป้งมันซึ่งเป็นแป้งอีกชนิดหนึ่งที่เป็นวัตถุดิบของการทำเส้นขนมจีนประมาณหนึ่งส่วนของแป้งข้าวเจ้าทั้งหมด
จากนั้นเมื่อผสมเข้ากันแล้วให้มีแป้งเหลวๆ ออกมาจากนั้นนำแป้งเหลวมาใส่ผ้าขาวบางบีบครั้นเอาเฉพาะน้ำแป้งระเอียดออกมา แล้วนำไปใส่เครื่องเพื่อบีบทำเส้นขนมจีนในน้ำเดือดอีกครั้งหนึ่งจะได้เป็นเส้นขนมจีนออกมาแล้วใช้ภาชนะวักเส้นขึ้นจากกระทะน้ำเดือดมาใส่ภาชนะน้ำเย็นแล้วนำมาจับเป็นหัวขนมจีนใส่ตระกล้าออกจำหน่ายได้ทันทีในราคาส่งกิโลกรัมละ 20 บาท ขายย่อยในราคากิโลกรัมละ 25 บาท
นางสุกัญญา กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีรายได้เพิ่มจากอาชีพทำนาด้วยการทำเส้นขนมจีนขายวันละ 200 กิโลกรัม แต่ถ้าวันไหนที่มีออเดอร์สั่งเพิ่มเข้ามา ก็จะเพิ่มปริมาณการผลิตมากขึ้น ซึ่งในช่วงแรกๆ ที่เริ่มทำเส้นขนมจีนก็จะส่งขายเพียงภายในหมู่บ้านและตลาดเทศบาลเมืองพิจิตรเท่านั้น
แต่ปัจจุบันนี้มีพ่อค้ามาติดต่อให้ผลิตเส้นขนมจีนส่งในเขตจังหวัดพิษณุโลก และตามงานบวช งานแต่ง รวมทั้งงานบุญต่างมีรายได้อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้คนในหมู่บ้านหันมาทำเส้นขนมจีนขายกันมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะทำกันเป็นเครือญาติ เนื่องจากเห็นว่าสามารถสร้างรายได้และทำให้เกิดชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้