ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – “เชียงใหม่ ซู อควาเรียม” เผยยอดนักท่องเที่ยวเข้าชมปีแรกกว่า 7 แสนคน เป็นไปตามเป้าหมาย แต่เก็บค่าเข้าชมได้เพียง 80 ล้านบาทต่ำกว่าคาดที่หวังไว้ว่าจะถึงร้อยล้าน เหตุเพราะมีการทำโปรโมชั่นมากทั้งชมฟรีและลดราคา ขณะที่ปีหน้ามั่นใจคนเข้าชมเพิ่มถึง 1.5 ล้านคน เก็บรายได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท พร้อมเตรียมลุยทำตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ชูจุดขายอุโมงค์น้ำจืด 3 ลุ่มน้ำ “โขง-เจ้าพระยา-สาละวิน” แห่งเดียวในโลก
นายโรจน์ ธุวนลิน ประธานกรรมการ บริษัทมารีนสเคป(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งบริหารจัดการเชียงใหม่ ซู อควาเรียม เปิดเผยผลการดำเนินการของ เชียงใหม่ ซู อควาเรียมว่า หลังจากที่เริ่มเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 พ.ย.51 จนถึงขณะนี้เป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว มีผู้เข้าเที่ยวชมเชียงใหม่ ซู อควาเรียม แล้วจำนวนทั้งสิ้นกว่า 700,000 คน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตามในส่วนของการจัดเก็บรายได้ยังต่ำกว่าเป้าหมาย โดยจัดเก็บได้ประมาณ 80 ล้านบาทเท่านั้น จากเป้าหมาย 100 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากเป็นช่วงปีแรกของการเปิดให้บริการจึงมีจัดโปรโมชั่นมาก ทั้งการเข้าชมฟรีและการให้ส่วนลด ส่งผลให้รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตามการดำเนินการในปีที่สองนั้น นายโรจน์ แสดงความมั่นใจว่าการดำเนินการของเชียงใหม่ ซู อควาเรียม จะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน โดยในปีที่สองนี้ตั้งเป้าหมายมีผู้เข้าชมอย่างน้อย 1.5 ล้านคน และมีรายได้จากการเก็บค่าเข้าชมไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อดูจากแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่เริ่มเปิดให้บริการแล้ว พบว่ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว และในช่วงนี้ที่แม้จะเพิ่งย่างเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้นก็มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเข้ามาเที่ยวจำนวนมากและมีทิศทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เชื่อมั่นว่าเมื่อถึงช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ที่เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยว จะมีผู้สนใจเข้ามาเที่ยวชมเชียงใหม่ ซู อควาเรียม มากกว่านี้ และทำให้การดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายในที่สุดอย่างแน่นอน
“ตอนนี้ยอมรับว่าดำเนินการของเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมานี้ เรายังขาดทุนอยู่ เพราะถึงแม้จำนวนคนเที่ยวชมจะเป็นไปตามเป้าหมายกว่า 7 แสนคน แต่เป้าหมายในแง่รายได้ไม่เป็นไปตามที่วางไว้ โดยเก็บค่าเข้าชมได้เพียง 80 ล้านบาท จากเป้าหมาย 100 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีการทำโปรโมชั่นเยอะมาก ทั้งการเข้าชมฟรีและการให้ส่วนลด แต่การดำเนินการในปีที่สองมีความมั่นใจว่าน่าจะดีขึ้นและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะมีผู้เข้าชมอย่างน้อย 1.5 ล้านคน และเก็บค่าเข้าชมได้ 200 ล้านบาท” นายโรจน์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ประธานกรรมการ บริษัทมารีนสเคป(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการทำตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ว่า ปัจจุบันยอมรับว่านักท่องเที่ยวที่เข้าชมเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่วอร์คอินเข้ามา อย่างไรก็ตามเวลานี้ได้มีความพยายามที่จะทำตลาดในต่างประเทศมากขึ้น โดยขณะนี้ได้มีการทำความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับบริษัททัวร์หลายแห่งในการจัดทำโปรแกรมทัวร์นำเสนอให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้ผลตอบรับดีและเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้าชมให้มากขึ้น
สำหรับจุดขายที่จะใช้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกิดความสนใจที่อยากจะมาเที่ยวชมเชียงใหม่ ซู อควาเรียมนั้น นายโรจน์ กล่าวว่า นอกจากจุดขายในเรื่องของอุโมงค์ใต้น้ำทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มที่ยาวที่สุดในโลก รวมทั้งมีความหลากหลายของพันธุ์สัตว์น้ำที่รวบรวมนำมาจัดแสดงแล้ว จากการประเมินผลตอบรับพบว่าในส่วนของอุโมงค์น้ำจืดที่มีการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจาก 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ โขง เจ้าพระยา และสาละวิน ที่น่าจะเป็นเพียงแห่งเดียวในโลก ที่รวมพันธุ์สัตว์น้ำไว้รวมทั้งสิ้นประมาณ 400 สายพันธุ์ ซึ่งล้วนเป็นพันธุ์สัตว์น้ำที่หาชมได้ยากและใกล้สูญพันธุ์ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากไม่สามารถหาชมได้ที่อื่น ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะนำจุดขายตรงส่วนนี้มาใช้เป็นตัวดึงดูดใจตลาดกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี