ศูนย์ข่าวศรีราชา- หนุ่มสกุล “บุนนาค” โร่แจ้ง ตร.เมืองพัทยา หลังเป็นลมสลบถูกโจรปลดทรัพย์นับแสน
วันนี้ (25 ต.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นางธัญดิษฐ์ ฉลาดกิตศิริกุล อายุ 52 ปี ว่าน้องชายชื่อ นายชดิศพันธุ์ บุนนาค อายุ 51 ปี อดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้ารักษาตัวอยู่ในห้อง ไอซียู ของ รพ.พัทยาเมโมเรียล ตังแต่วันที่ 24 ต.ค.2552 ที่ผ่านมา โดย นางธัญดิษฐ์ สงสัยว่า น้องชายถูกโจรทำร้ายและทรัพย์ สินไปเนื่องจากทรัพย์สินที่ติดตัวอยู่หายไปจนหมด
เบื้องต้นพบว่า นายชดิศพันธุ์ นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีบาดแผลแตกที่หน้าผาก จมูกหัก และขอบตาขาวเขียวช้ำ ยังอยู่ในอาการสลึมสลือ แต่พ้นขีดอันตรายแล้ว สอบถาม นายชิดศพันธุ์ พอจับใจความได้ว่า นั่งรถทัวร์โดยสารเดินทางออกมาจากกรุงเทพมหานคร มายังเมืองพัทยา เพื่อมาร่วมงานศพเพื่อน
เมื่อมาถึงก็ได้นั่งรถรับจ้างต่อเพื่อแวะมาหาเพื่อนสนิท ที่พักอยู่ในหมู่บ้านจอมเทียนนิเวศน์ ถนนทัพพระยา ม.11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หวังจะให้เพื่อนพาไปงานศพ โดยได้เดินเข้าไปมาท้ายซอยของหมู่บ้าน แต่ยังไม่ถึงก็เกิดอาการหน้ามืด เนื่องจากอากาศร้อนและยังมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน จึงหมดสติไป
จนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ใน รพ.ส่วนทรัพย์สินในตัวที่นำมาด้วย ทั้งกระเป๋าเงินซึ่งมีเงินสดประมาณ 1 หมื่นบาท แหวนทองฝังเพชรอีก 4 วง รวมทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่ากว่า 1 แสนบาท หายไปหมดตัว ไม่ทราบว่าถูกใครเอาไป
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้รุดไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาร่องรอย แต่ก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ จะมีเพียงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีบ้านใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเห็นผู้เสียหายนอนสลบอยู่ จึงช่วยเหลือพาปฐมพยาบาลก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียล โดยทางตำรวจจะได้สอบปากคำผู้เสียหายให้แน่ชัดอีกครั้งหลังอาการดีขึ้น เพื่อดำเนินการสืบหาสาเหตุที่แท้จริง และตามหาเบาะแสของทรัพย์สินที่ของผู้เสียหายที่ถูกก่อเหตุกลับคืน
วันนี้ (25 ต.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นางธัญดิษฐ์ ฉลาดกิตศิริกุล อายุ 52 ปี ว่าน้องชายชื่อ นายชดิศพันธุ์ บุนนาค อายุ 51 ปี อดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้ารักษาตัวอยู่ในห้อง ไอซียู ของ รพ.พัทยาเมโมเรียล ตังแต่วันที่ 24 ต.ค.2552 ที่ผ่านมา โดย นางธัญดิษฐ์ สงสัยว่า น้องชายถูกโจรทำร้ายและทรัพย์ สินไปเนื่องจากทรัพย์สินที่ติดตัวอยู่หายไปจนหมด
เบื้องต้นพบว่า นายชดิศพันธุ์ นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีบาดแผลแตกที่หน้าผาก จมูกหัก และขอบตาขาวเขียวช้ำ ยังอยู่ในอาการสลึมสลือ แต่พ้นขีดอันตรายแล้ว สอบถาม นายชิดศพันธุ์ พอจับใจความได้ว่า นั่งรถทัวร์โดยสารเดินทางออกมาจากกรุงเทพมหานคร มายังเมืองพัทยา เพื่อมาร่วมงานศพเพื่อน
เมื่อมาถึงก็ได้นั่งรถรับจ้างต่อเพื่อแวะมาหาเพื่อนสนิท ที่พักอยู่ในหมู่บ้านจอมเทียนนิเวศน์ ถนนทัพพระยา ม.11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หวังจะให้เพื่อนพาไปงานศพ โดยได้เดินเข้าไปมาท้ายซอยของหมู่บ้าน แต่ยังไม่ถึงก็เกิดอาการหน้ามืด เนื่องจากอากาศร้อนและยังมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน จึงหมดสติไป
จนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ใน รพ.ส่วนทรัพย์สินในตัวที่นำมาด้วย ทั้งกระเป๋าเงินซึ่งมีเงินสดประมาณ 1 หมื่นบาท แหวนทองฝังเพชรอีก 4 วง รวมทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่ากว่า 1 แสนบาท หายไปหมดตัว ไม่ทราบว่าถูกใครเอาไป
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้รุดไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาร่องรอย แต่ก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ จะมีเพียงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีบ้านใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเห็นผู้เสียหายนอนสลบอยู่ จึงช่วยเหลือพาปฐมพยาบาลก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียล โดยทางตำรวจจะได้สอบปากคำผู้เสียหายให้แน่ชัดอีกครั้งหลังอาการดีขึ้น เพื่อดำเนินการสืบหาสาเหตุที่แท้จริง และตามหาเบาะแสของทรัพย์สินที่ของผู้เสียหายที่ถูกก่อเหตุกลับคืน
