xs
xsm
sm
md
lg

ชาวมาบตาพุดเดินเท้าเข้ากรุง - ลั่น “มาร์ค” ต้องทำตาม รธน.50 เท่านั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ใช้ถนนสาย พัฒยา-สัตหีบ เดินเท้าวันละ 30 กม. มุ่งหน้าเข้ากรุง ร้องเรียนนายกฯ อย่างเล่นแง่ออก ประกาศสิ่งแวดล้อมตบตา ลั่นต้องทำตาม รธน.50 เท่านั้น โดยวางเป้าค้างคืนอีกครั้งที่วัดจิตตภาวัน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี คาดวันพุธ ถึงกรุงเทพฯ

         วานนี้ (24 ต.ค.) นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคตะวันออก พร้อมประชาชาวมาบตาพุด นับร้อยคน ที่เดินทางด้วยเท้าเปล่า มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปฎิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 67 อย่างเคร่งครัด ได้เข้าพักที่วัดอัมพาราม ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี เจ้าอาวาสวัดอัมพาราม คอยอำนวยความสะดวก และประชาชนชาวตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบจำนวนหนึ่ง มาให้การต้อนรับ ในการนี้ได้ประกอบอาหารคาว หวาน ให้ผู้เดินทางรับประทานอย่างอิ่มหนำสำราญ พร้อมกับจัดสถานที่บนศาลา ให้เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกได้พักผ่อนเอาแรง ไว้เดินทางต่อในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น.

นายสุทธิ อัชฌาศัย แกนนำ และผู้ประสาน เปิดเผยว่า การเดินเท้าธรรมญาตรา ในครั้งนี้ สามารถเดินได้ระยะเพียง 30 กิโลเมตรต่อ 1 วัน กำหนดไว้เพียง 5 วัน ต้องถึงรัฐสภา โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปตามเส้นทางถนนสาย 3 เส้นทางสัตหีบ-พัทยา โดยจะไปพักผ่อนค้างแรมกันที่วัดจิตตภาวัน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลไม่เหลียวแลในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ส่งผลกระทบทั้งทางด้านจิตใจ ร่างกาย ทำให้คุณภาพชีวิตตกต่ำลงทุกวัน ฉะนั้นรัฐบาลต้องตรวจสอบข้อมูลหลักฐานและข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านและเปิดโอกาส การมีส่วนร่วมของประชาชน ก่อนการตัดสินใจอุทธรณ์หรือการตัดสินใจแนวทางการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาในอนาคต โดยไม่หลงเชื่อคำกล่าวอ้างที่ไม่มีข้อมูลหลักฐานของภาคธุรกิจอุตสาหกรรม ให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมุ่งเน้นการลดปัญหามลพิษ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนที่ปรากฏอยู่จริงในพื้นที่ มากกว่าที่จะกล่าวอ้างแต่เรื่องการทำตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม

ผู้สื่อข่าวรายงายอีกว่าขณะที่เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เดินไปตามเส้นทางได้รณรงค์ให้พี่น้องประชาชนภาคตะวันออกและทั่วประเทศได้ตระหนักในเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อม มลพิษที่ส่งผลกระทบอย่างมหันต์ เพราะไม่เพียงชาวจังหวัดระยองเท่านั้นที่ได้รับความเดือดร้อน ในอนาคตอันใกล้ จะรุกรามในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างแน่นอน ถ้าไม่ช่วยกันต่อต้านโรงงานสกปรก สร้างมลพิษ มลภาวะของชาติเสื่อมโทรม เพราะมีตัวอย่างให้เห็นแล้ว อย่างในมาบตาพุด พื้นที่อุตสาหกรรม ทับซ้อนชุมชนไม่มีพื้นที่กันชน โรงงานติดกับวัด โรงเรียน และบ้านเรือนของประชาชน ปัญหาจากการใช้น้ำบ่อตื้นที่ปนเปื้อนโลหะหนัก เนื่องจากยังไม่มีประปา ปัญหาอุบัติภัยสารเคมี ซึ่งเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และปัญหาการเจ็บป่วยของชาวบ้าน




กำลังโหลดความคิดเห็น