พิจิตร - โรงสีชุมชนกลายเป็นที่พึ่งของชาวนายามราคาข้าววิกฤตตกต่ำ หันนำข้าวเปลือกแปรรูปเป็นข้าวสาร สุดอนาถทั้งจังหวัดเหลือดีเข้มแข็งอยู่ไม่กี่แห่ง เดินเครื่องจักรสีข้าว 4 ตัน ต่อวัน ทำวันเสียวัน เครื่องเก่าแก่กว่า 10 ปี วอนภาครัฐช่วยชาวบ้าน
วันนี้ (23 ต.ค.) นายจันทรี พิลึก อายุ 46 ปี อดีตกำนัน และเป็นประธานโรงสีสวัสดิการชุมชน ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวนาที่ต้องสิ้นหวัง และสิ้นศรัทธากับโครงการประกันราคาพืชผลทางการเกษตรของรัฐบาล จึงหันหน้ามาพึ่งโรงสีสวัสดิการชุมชนมากขึ้น ด้วยการนำข้าวเปลือกมาแปรรูปเป็นข้าวสารเก็บไว้กินกันเอง และบางส่วนก็ให้ร้านค้าของชุมชนบรรจุถุงขายกันในหมู่บ้าน อีกทั้งออกเร่ขายตามตลาดนัดหรืองานนิทรรศการต่างๆ ซึ่งได้ราคาดีกว่าขายเป็นข้าวเปลือกให้กับเถ้าแก่โรงสี ในขณะนี้ เพราะรอนโยบายการประกันราคาพืชผลการเกษตรของรัฐบาลที่ไม่คลอดเป็นรูปธรรมเสียที
โดยโรงสีสวัสดิการชุมชนที่ดำเนินกิจการ นอกจากจะให้บริการคนใน ต.เนินปอ แล้วก็ยังมีชาวบ้านจากตำบลรอบข้างมาขอใช้บริการด้วย ซึ่งโรงสีสวัสดิการชุมชนแห่งนี้ก็จะได้รับ รำ ปลายข้าว และ แกลบ เป็นค่าดำเนินการ แล้วเอากำไรที่ได้ไปจัดสรรเพื่อเป็นสวัสดิการของชุมชน เพื่อดูแลคนแก่ คนพิการ เพื่อช่วยเหลือและเป็นค่าจัดงานณาปนกิจศพของสมาชิกในชุมชน รวมถึงยังเป็นกองทุนเพื่อการศึกษาให้กับบุตรหลานของสมาชิก โดยไม่ต้องรอโครงการของรัฐบาลที่ทุกวันนี้ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมอันเป็นการต่อสู้ด้วยลำแข้งของกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกันทำเช่นนี้มานานกว่า 10 ปี โดยได้รับเงินสนับสนุนในคราวแรกมาจากกองทุน SIF
โดยใน จ.พิจิตร มีโรงสีสวัสดิการชุมชนเช่นนี้มากกว่า 40 แห่ง แต่ขาดการดูแลในการเติมความคิด จึงทำให้ปัจจุบันเหลือที่เข้มแข็งและเดินเครื่องดำเนินกิจการเหลืออยู่ไม่ถึง 5 แห่ง นอกนั้นก็ปิดปล่อยรกร้างน่าเสียดายโอกาสที่จะนำมาใช้ประโยชน์ในยามวิกฤตเช่นนี้
ถึงแม้โรงสีสวัสดิการชุมชน ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร จะได้เป็นต้นแบบ จนมีลานตากข้าว มีเครื่องชั่ง มีโรงอัดเม็ดทำปุ๋ยชีวภาพ ที่ใช้ทุนจาการระดมทุนของชาวบ้านเองจนเข้มแข็ง
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้นเกินกำลัง ก็คือ โรงสีสวัสดิการชุมชนมีการผลิตวันละ 4 ตัน ใช้งานมากว่า 10 ปี มีสภาพ เก่าแก่ และชำรุด ทำวันเสียวัน จนขณะนี้ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากการขายข้าวไม่ได้ราคา แต่หวังพึ่งโรงสีชุมชนต้องมาเข้าคิวรอ เพื่อใช้บริการนานนับสัปดาห์ จึงจะถึงคิวได้สีข้าวไว้กิน ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านต่างเรียกร้องอยากให้ภาคราชการให้ความสำคัญกับภาคประชาชน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีภาคราชการเข้ามาให้ความเหลียวและช่วยเหลือแก้ไขแต่อย่างใด