กระบี่-จังหวัดกระบี่เปิดตัวระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่านมือถือ(SMS) แห่งแรกของประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการแจ้งเตือนภัย เข้าถึงประชาชนและนักท่องเที่ยวเร่งด่วน ในพื้นที่เสี่ยง ลดความสูญเสีย
วันนี้ (19 ต.ค.52) ที่ห้องประชุมปกาสัย ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในการแถลงข่าว โครงการแจ้งเตือนภัยผ่านระบบเอสเอ็มเอส (SMS) จังหวัดกระบี่ โดยมีนายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้รายละเอียดในการแถลงข่าว
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากบทเรียนการเกิดภัยพิบัติ ที่ผ่านมา หลายครั้งที่ชาวจังหวัดกระบี่ ต้องตกอยู่ในภาวะวิตกจนเกินเหตุ เช่น การเกิดแผ่ดินไหว ในทะเล บริเวณเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เพราะไม่แน่ใจว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือไม่ จนบางครั้งทำให้สูญเสียโอกาส ซึ่งจังหวัดได้ตระหนักถึงภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเหตุแผ่นดินไหว พายุฝนฟ้าคะนอง หรือภัยพิบัติอื่นๆ
จึงได้มีการดำเนินการติดตั้งระบบเตือนภัยตามพื้นที่เสียง ก็คือหอเตือนภัยสึนามิ จำนวน 12 หอ ตั้งแต่หลังจากเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อ ปี 47 และได้ติดตั้งเพิ่มอีก จำนวน 20 หอ ในพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองกระบี่ อำเภออ่าวลึก อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อม และ อำเภอเกาะลันตา แต่หลังสร้างเสร็จไม่สามารถเชื่อมสัญญาณกับศูนย์เตือนภัยได้ จึงทำการปรับปรุงอุปกรณ์ ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2553
ผวจ.กระบี่ กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการแจ้งเตือนภัยให้ประชาชน นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ให้ทั่วถึง จังหวัดกระบี่จึงได้จัดตั้ง”ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อแจ้งเตือนภัยผ่านระบบมือถือ (SMS) ให้กับประชาชนที่สมัครใจรับการแจ้งข่าว โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกช่องทางหนึ่ง โดยผู้ที่สนใจสามารถสมัครโดยแจ้งหมายเลขโทรศัพท์มือถือไปได้ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เลขที่ 171 ถนนเทคนิคท่าเรือ ต.ไสไทย อ.เมือง จ .กระบี่ โทร.075-612735,075-612639 และ075-612690
การแจ้งเตือนภัยผ่านมือถือจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดแรกของประเทศเทศที่มีการนำระบบแจ้งเตือนภัยผ่านระบบเอสเอ็มเอส มาใช้ในพื้นที่ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 52 เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับรู้ข่าวสารที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งคาดว่าระบบนี้จะช่วยลดความแตกตื่นของชาวบ้านลงได้ เพราะหลายครั้งที่มีการแจ้งเตือน ทางทีวี ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไม่ได้รับทราบข้อมูล ก็เกิดความแตกตื่นและวิ่งหนีเอาชีวิตรอดทั้งที่ภัยพิบัติที่เกิดไม่ได้ส่งผลกระทบมาถึงจังหวัดกระบี่
