พิจิตร - รมต.แรงงาน แจงแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ 50 หลัง ปชป.เสียงแตก ย้ำสุดท้ายต้องเคารพมติพรรค เดินหน้าเร่งเคลียร์ปัญหา 151 แรงงานไทยตกค้างที่ลิเบีย คาดบินกลับถึงไทยภายใน 2 วันนี้แน่นอน พร้อมเปลี่ยน “ต้นกล้าอาชีพ” เป็น “ต้นกล้า ไทยเข้มแข็ง”
นายไพฑรูย์ แก้วทอง รมต.แรงงาน ได้ให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดพิจิตร ถึงกรณีที่มี ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับการแก้ รธน. ว่า เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่สุดท้ายก็ต้องรับฟังมติของพรรค โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้นโยบายไว้ชัดเจนแล้วว่าต้องทำประชามติ รับฟังความเห็นชอบของประชาชนเป็นที่ตั้ง ว่าเห็นด้วยกับการแก้ รธน.ทั้ง 6 มาตรา หรือบางมาตราเท่านั้น ซึ่งเมื่อได้ประชามติแล้วจึงจะนำเข้าสภาให้ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ลงมติ จึงคิดว่าเรื่องการแก้ไข รธน.คงไม่จบลงได้ง่ายๆในช่วงนี้ เพราะขณะนี้เสียงของ ส.ส.แตกเป็นสองกลุ่ม ดังนั้นถ้าจะแก้ รธน.เสียงของ ส.ส. และ ส.ว.ต้องเกินกึ่งหนึ่ง จึงจะสัมฤทธิ์ผล บทสุดท้ายดีที่สุด ก็คือต้องฟังเสียงของประชาชนเป็นที่ตั้ง
ในส่วนของแรงงานไทยในลิเบียที่ถูกเลิกจ้าง และตกค้างนานกว่า 8 เดือน แล้วนั้น นายไพฑรูย์ รมต.แรงงาน กล่าวว่า เป็นเรื่องปัญหาการขอวีซ่า กับประเทศไทยจำนวน 151 คน ซึ่งขณะนี้ ก.ต่างประเทศ ได้อนุมัติเงินจำนวน 6 ล้านบาท เพื่อจะเป็นค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่า และตั๋วเครื่องบินกลับประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งวันที่ 20 ต.ค. 2552 ที่จะถึงนี้ก็จะส่งเอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่แรงงานจำนวน 4 คน ให้ไปประจำอยู่ที่ประเทศลิเบีย เพื่อดูแลแรงงานไทย และคาดว่าภายใน 2 วันนี้คงจะบินกลับมาถึงประเทศไทย
รมต.แรงงาน บอกต่ออีกว่าในส่วนของผู้ที่เคยเข้ารับการอบรมต้นกล้าอาชีพแล้วยังไม่ได้รับค่าเบี้ยเลี้ยง หรือ ค่าเข้าอบรม ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 13 ต.ค. 2552 ที่ผ่านมา คณะ รมต.ได้ประชุมพิจารณาอนุมัติเรียบร้อยแล้วเป็นกรณีพิเศษ จึงขอให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว ไปขอรับได้ทันที
ส่วนโครงการใหม่ ในการฝึกอบรมอาชีพจะไม่เรียกว่า “โครงการต้นกล้าอาชีพ” อีกต่อไปแล้ว แต่จะเปลี่ยนชื่อใหม่เรียกว่า “ต้นกล้าเข้มแข็ง” เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณไทยเข้มแข็งต่อไป