ช้าง“วันดี”สุรินทร์กินตอฟางล้มป่วย อาการยังน่าเป็นห่วงติดเชื้อรุนแรง

สุรินทร์ - ช้างพังวันดี อายุ 9 ปี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ล้มป่วยหนักหลังกินตอฟางข้าวจำนวนมาก ล่าสุดอาการยังน่าเป็นห่วง สัตวแพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ชี้สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง

วันนี้ (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า อาการป่วยของ ช้างพังวันดี อายุ 9 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ได้ทำการรักษาอยู่ที่บริเวณริมสระน้ำ บ้านหัวนาคำ ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เป็นวันที่สอง หลังจากล้มป่วยหนักกะทันหันไม่สามารถยืนได้ ต้องนอนอยู่ในสภาพหมดแรงหายรวยริน และมีอาการท้องอืดรุนแรง เลือดออกทางทวารหนักและงวง กินอาหารไม่ได้ เบื้องต้นสัตว์แพทย์คาดว่า สาเหตุมาจากช้างกินตอฟางข้าวเข้าไปเป็นจำนวนมากและเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด

ล่าสุด วันนี้ อาการช้างพังวันดี ยังน่าเป็นหวง สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ ยังคงให้การรักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ฆ่าเชื้อโรค ยาบำรุงร่างกาย ยาแก้อักเสบ ซึ่งใช้วิธีการฉีดเข้าทางสายน้ำเกลือ เข้าเส้นเลือดช้าง

นายสัตวแพทย์ทศพล ต่อศรี นายสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้าง สถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า อาการของช้างพังวันดีวันนี้ดีขึ้นเล็กน้อย เพราะช้างสามารถขับถ่ายได้ ฝายลมออกได้และอาการท้องอืดลดลง แต่ยังพบมีอาการกระตุกเป็นบางครั้ง ของลำตัว และ งวงสั่น เป็นบางครั้ง

นอกจากนี้ยังตรวจพบเส้นเลือดฝอย บริเวณปาก เป็นสีดำคาดว่าเกิดจากการติดเชื้ออย่างรุนแรง ช้างอ่อนเพลียมาก ต้องให้น้ำเกลือผสมยาบำรุงตลอดเวลา ส่วนการให้ยาต้านไวรัส นั้นยังไม่สามารถให้ได้เพราะตอนนี้ช้าง กินอะไรไม่ได้ และเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ยังต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะอาการทั่วไปน่าเป็นห่วง

ส่วนการจะนำช้างพังวันดี ไปรักษาที่โรงพยาบาลช้าง สถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติจังหวัดสุรินทร์ นั้น ช่วงนี้ยังไม่อยากให้มีการเคลื่อนย้ายเพราะช้างอ่อนเพลียมาก เกรงว่าช้างจะหมดแรงเสียก่อน ซึ่งต้องรักษาที่นี่ไปสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อให้ช้างมีกำลังให้ดีขึ้นกว่านี้ค่อยมาหาวิธีการอื่นๆ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ควาญช้าง และชาวบ้านได้ช่วยกันนำยาสมุนไพร มาต้ม และอาบให้แก่ช้างพังวันดี เพื่อช่วยรักษาช้างอีกทางหนึ่งด้วย