ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “แม่ทัพภาค 2” ยันไทยไม่ได้ส่งรถถัง-กำลังพลเสริม “ภูมะเขือ” ชายแดนเขาพระวิหารเพิ่มแต่อย่างใด ระบุตรึงกำลังแนวเดิมไม่มีอะไรเคลื่อนไหว จวกสื่อเขมรเอาข่าวมาจากไหน ระบุสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นไปด้วยดีไม่มีเหตุน่าวิตก ส่วนการเปิดอุทยานฯ ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมต้องรอให้สถานการณ์อยู่ภาวะสงบและการเมืองในประเทศไทยนิ่งไม่แตกแยกทางความคิด
วันนี้ (16 ต.ค.) พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่าล่าสุดจนถึงขณะนี้สถานการณ์โดยรวมยังเป็นปกติดี ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม ไม่มีเหตุการณ์อะไรน่าวิตกหรือน่าเป็นห่วง
ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนกัมพูชารายงานข่าวระบุว่า ฝ่ายไทยส่งรถถังจำนวน 2 คัน ติดอาวุธทันสมัยเข้าใกล้เขตภูมะเขือ ซึ่งอยู่ในบริเวณพิพาทห่างจากปราสาทพระวิหารไปทางทิศตะวันตกประมาณ 1 กิโลเมตร (กม.) จากการให้สัมภาษณ์ของนายทหารกัมพูชา นั้น พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ฝ่ายไทยยังไม่มีการเคลื่อนย้ายรถถังหรืออาวุธใด ๆ เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทุกอย่างยังอยู่ที่เดิม ไม่ทราบว่าข่าวออกมาเช่นนี้ได้อย่างไรหรือไปเอาข่าวนี้มาจากที่ใด
ขอยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งดูแลพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลหรืออาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปเพิ่มเติมในพื้นที่นี้แต่อย่างใด ทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม
“กำลังพลที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ภูมะเขือยังคงวางกำลังอยู่ในแนวเดิมไม่มีอะไรเคลื่อนไหว และไม่มีการเพิ่มเติมอาวุธหรือกำลังพลเข้าไปทั้ง 2 ฝ่าย ” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และทุกฝ่ายก็ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลพื้นที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องเส้นเขตแดนนั้นก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการปักปันเขตแดนที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนกรณีการก่อสร้างถนนของฝ่ายกัมพูชาขึ้นมายังเขาพระวิหารในพื้นที่พิพาท ฝ่ายไทยสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในถนนดังกล่าวหรือไม่นั้น พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า ถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนเส้นเดิมที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างขึ้นมาและใช้เป็นเส้นทางที่จะนำประชาชนขึ้นมาเที่ยวเมื่อครั้งยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยอยู่ แต่ช่วงหลังเนื่องจากว่าเป็นเส้นทางที่สูงชันและการนำรถขึ้นมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทางฝ่ายกัมพูชาจึงทำการปรับปรุงซ่อมแซมให้เกิดความสะดวกสบายเฉพาะในช่วงลาดชันมีการเทคอนกรีต ส่วนอื่นก็เป็นดินลูกรังเหมือนเดิม ซึ่งการปรับปรุงเส้นทางดังกล่าวเขายังทำอยู่ในเขตเขา (กัมพูชา) ไม่ได้เข้ามาในพื้นที่พิพาท เราจึงไม่ได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในถนนเส้นดังกล่าว แต่อย่างใด
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวอีกว่า สำหรับการเปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวขั้นไปท่องเที่ยวนั้น คงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักระยะเพื่อให้สถานการณ์ทุกอย่างเข้าที่และอยู่ในภาวะสงบ ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไม่นิ่งและยังมีความแตกแยกกันทางความคิด หากรวมความคิดกันเป็นหนึ่งแล้วหรือเกิดความสามัคคีกันขึ้นก็น่าจะเปิดให้เข้าชมได้ ส่วนจะช้าหรือเร็วแค่ไหนนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์กันอีกครั้งหนึ่ง