ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาเอาจริงเตรียมออกคำสั่งรื้อถอนอาคารรุกล้ำแนวคลองสาธารณะ 12 รายรวดภายใน 1 อาทิตย์ หลังพบสร้างปัญหาสิ่งปลูกสร้างขวางกั้นทางระบายน้ำส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (15 ต.ค.) จากรณีที่เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วง 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ในเขตเมืองพัทยาและใกล้เคียงประสบกับภาวะน้ำท่วมขังอย่างหนัก ประชาชนเป็นจำนวนมากต้องเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นนั้นผู้บริหารเมืองพัทยาระบุว่านอก จากปัจจัยในเรื่องของน้ำทะเลหนุนแล้ว ยังมีปัญหาในเรื่องของการระบายน้ำที่เป็นไปด้วยความเชื่องช้า เนื่องจากคลองพัทยาใต้ซึ่งเป็นทางระบายน้ำหลักลงสู่ทะเลมีสภาพคับแคบที่สำคัญยังพบว่ามีการปลูกสร้างอาคารรุกล้ำแนวคลองเป็นจำนวนมากทำให้มีการติดค้างของขยะมูลฝอยและเศษตะกอนดินจนทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้สะดวก ดังนั้นเมื่อมีปริมาณน้ำฝนเป็นจำนวนมากจึงทำให้เกิดการเอ่อล้นและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
ล่าสุด นายวีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา ในฐานะที่รักษาราชการแทนนายกเมืองพัทยา ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมสื่อมวลชน ลงตรวจสอบสภาพแนวคลองบริเวณพัทยาใต้ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าตลอดแนวคลองซึ่งมีขนาดความกว้างประมาณ 2 เมตรนั้นจะมีผู้ประกอบการภาคเอกชนหลายแห่งทำการก่อสร้างอาคาร สะพาน และสิ่งปลูกสร้างอื่นคร่อมแนวคลอง
ขณะที่บริเวณฐานของอาคารเหล่านี้ก็มีการตอกเสาซีเมนต์ หรือเสาไม้ลงไปในแนวคลอง ทำให้มีเศษวัสดุจำพวกพลาสติกและอื่นๆ รวมทั้งเศษดินทับถมอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ในบางพื้นที่ซึ่งมีการถมดินบริเวณริมแนวคลองนั้น ก็มีภาคเอกชนบางส่วนบุกรุกเข้ามาปลูกที่พักอาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาตแต่อย่างใด
นายวีรวัฒน์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบแนวคลองนั้นพบว่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีอาคารและสิ่งปลูกสร้างปิดกั้นหรือทับแนวคลองไปจนหมด ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้โดยสะดวก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจแนวคลอง รวม ทั้งแนวเขตที่ดินของประชาชนตามแนวคลองจากสำนักงานที่ดิน เพื่อกำหนดพื้นที่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและง่ายต่อการออกคำสั่งรื้อถอนเพื่อทำการปรับปรุงคลองในอนาคต ส่วนอาคารที่เคยสำรวจไว้เดิมที่มีการก่อสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวคลองจำนวน 12 รายนั้น
จากการตรวจสอบเอกสารพบว่าเมืองพัทยาได้ออกคำสั่งห้ามใช้อาคาร หรือ ค.4 และให้รื้อถอนอาคาร หรือ ค.7 ไปแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 แต่จนถึงปัจจุบันผ่านมา 1 ปีกว่าก็ยังไม่พบว่าใครจะดำเนินการตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเองก็ยังเพิกเฉย ซึ่งเรื่องนี้จากนี้ไปคงจะยินยอมให้ไม่ได้เนื่องจากถือว่าเป็นปัญหาของส่วนรวมที่ต้องดำเนินการแก้ไขเร่งด่วน โดยจะใช้อำนาจในฐานะที่รักษาราชการแทนนายกเมืองพัทยา สั่งการให้ออกคำสั่งให้ผู้ก่อสร้างอาคารรุกล้ำทั้ง 12 รายทำการรื้อถอนภายในระยะเวลา 7 วันนับจากนี้ ซึ่งหากยังไม่ดำเนินการเมืองพัทยาก็จะเข้ามาจัดการเองตามกฎหมาย พร้อมเรียกเก็บค่าเสียหายจากค่ารื้อถอนด้วย
นายวีรวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีดังกล่าวหลายคนเกรงว่าสุดท้ายแล้วเมืองพัทยาคงไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นแหล่งชุมชนใหญ่และมีฐานคะแนนทางการเมืองอยู่เป็นจำนวนมากจนอาจกลายเป็นมวยล้มนั้น งานนี้ยืนยันว่าพร้อมจะดำเนินการอย่างเต็มที่และจะเร่งออกคำสั่งโดยเร็ว โดยให้ประชาชนและสื่อมวลชนคอยสังเกตการณ์และติดตามงานได้อย่างใกล้ชิด