จันทบุรี - ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนภาคประชาชนจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับสมาคมคนตาบอดจันทบุรีจัดเวทีร่วมเสวนาการเมืองภาคพลเมือง การเมืองไทยกับประชาธิปไตยที่เราอยากเห็นเป็นอย่างไร
วันนี้ (15 ต.ค.52) ที่อาคารศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนภาคประชาชน ตำบลเกาะขวาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี นายกองสิน แรงดี นายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยดาบตำรวจ ปัญญวัฒน์ กระทุ่มเขต ประธานศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนจังหวัดจันทบุรี ร่วมกันจัดเวทีร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การเมืองภาคพลเมือง กับหัวข้อ “การเมืองไทยกับประชาธิปไตย ที่เราอยากเห็นควรเป็นอย่างไร”
โดยในการจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย สภาองค์กรชุมชน ผู้สูงอายุ, ผู้นำสตรี, อสม,. คนตาบอด, กลุ่มเยาวชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในตำบลบางกะจะ, ตำบลคลองนารายณ์ และตำบลเกาะขวาง โดยมีดาบตำรวจปัญญวัฒน์ กระทุ่มเขต เป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากวิทยากรจากหน่วยงานต่างๆให้เกียรติร่วมในการจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้ด้วย
โดยประชาธิปไตยบางครั้งฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ในความจริงแล้วมันเป็นเรื่องใกล้ตัวจนบางครั้งเราคาดแทบไม่ถึง สิ่งที่สามารถบ่งบอกความเป็นประชาธิปไตย ได้ก็คือความมีสิทธิและเสรีภาพ ความหวงแหนที่จะใช้สิทธิเสรีภาพนั้น สิทธิในการพูด การเขียน รับเรื่องข้อมูลข่าวสารและยังสามารถแสดงออกซึ่งความคิดเห็น ความต้องการของตนเอง โดยที่ไม่มีใครมาบังคับแต่อย่างใด ซึ่งสิทธิในการมีส่วนร่วมและแสดงออกซึ่งความคิดเห็นในการดูแลชุมชน หรือหมู่บ้านของตนเอง โดยที่ไม่ใช่หรือแค่รับฟังจากส่วนกลางเพียงอย่างเดียว
ดังนั้น หน้าที่ของประชาชน จะต้องมีการพัฒนาเกี่ยวกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมที่จะพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม นักการเมืองและข้าราชการ ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีคุณธรรมและถูกต้องต่อประชาชนและนอกจากนี้ จะมีการพัฒนาและส่งเสริมให้ประชาชนมีความเข็มแข็งในทางการเมืองอย่างมีคุณภาพ
โดยใช้สิทธิในการเลือกผู้นำในชุมชน เลือกคนที่เราชอบและเป็นคนที่สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สร้างความเจริญรุ่งเรืองในท้องถิ่นให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง และจะไม่สร้างผลประโยชน์ให้แก่ตัวเอง โดยในการจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้จะเห็นได้ว่า ผู้เข้าร่วมเสวนาจากกลุ่มเป้าหมายต่างๆได้แสดงออกความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของนักการเมืองในปัจจุบันอย่างกว้างขวาง พร้อมกับได้มีการระดมความคิดเห็นเพื่อเป็นการสร้างรากฐานที่ดีให้เกิดขึ้นกับภาคประชาสังคมต่อไป
วันนี้ (15 ต.ค.52) ที่อาคารศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนภาคประชาชน ตำบลเกาะขวาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี นายกองสิน แรงดี นายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยดาบตำรวจ ปัญญวัฒน์ กระทุ่มเขต ประธานศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนจังหวัดจันทบุรี ร่วมกันจัดเวทีร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การเมืองภาคพลเมือง กับหัวข้อ “การเมืองไทยกับประชาธิปไตย ที่เราอยากเห็นควรเป็นอย่างไร”
โดยในการจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย สภาองค์กรชุมชน ผู้สูงอายุ, ผู้นำสตรี, อสม,. คนตาบอด, กลุ่มเยาวชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในตำบลบางกะจะ, ตำบลคลองนารายณ์ และตำบลเกาะขวาง โดยมีดาบตำรวจปัญญวัฒน์ กระทุ่มเขต เป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากวิทยากรจากหน่วยงานต่างๆให้เกียรติร่วมในการจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้ด้วย
โดยประชาธิปไตยบางครั้งฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ในความจริงแล้วมันเป็นเรื่องใกล้ตัวจนบางครั้งเราคาดแทบไม่ถึง สิ่งที่สามารถบ่งบอกความเป็นประชาธิปไตย ได้ก็คือความมีสิทธิและเสรีภาพ ความหวงแหนที่จะใช้สิทธิเสรีภาพนั้น สิทธิในการพูด การเขียน รับเรื่องข้อมูลข่าวสารและยังสามารถแสดงออกซึ่งความคิดเห็น ความต้องการของตนเอง โดยที่ไม่มีใครมาบังคับแต่อย่างใด ซึ่งสิทธิในการมีส่วนร่วมและแสดงออกซึ่งความคิดเห็นในการดูแลชุมชน หรือหมู่บ้านของตนเอง โดยที่ไม่ใช่หรือแค่รับฟังจากส่วนกลางเพียงอย่างเดียว
ดังนั้น หน้าที่ของประชาชน จะต้องมีการพัฒนาเกี่ยวกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมที่จะพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม นักการเมืองและข้าราชการ ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีคุณธรรมและถูกต้องต่อประชาชนและนอกจากนี้ จะมีการพัฒนาและส่งเสริมให้ประชาชนมีความเข็มแข็งในทางการเมืองอย่างมีคุณภาพ
โดยใช้สิทธิในการเลือกผู้นำในชุมชน เลือกคนที่เราชอบและเป็นคนที่สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สร้างความเจริญรุ่งเรืองในท้องถิ่นให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง และจะไม่สร้างผลประโยชน์ให้แก่ตัวเอง โดยในการจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้จะเห็นได้ว่า ผู้เข้าร่วมเสวนาจากกลุ่มเป้าหมายต่างๆได้แสดงออกความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของนักการเมืองในปัจจุบันอย่างกว้างขวาง พร้อมกับได้มีการระดมความคิดเห็นเพื่อเป็นการสร้างรากฐานที่ดีให้เกิดขึ้นกับภาคประชาสังคมต่อไป
