ฉะเชิงเทรา - เทศบาลเมืองแปดริ้วเตรียมจัดมหกรรมย้อนรอยวิถีไทยครั้งยิ่งใหญ่ ในงานลอยกระทง ย้อนเวลาหาวิถีไทย ครั้งที่ 9 ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง พร้อมเตรียมเนรมิตพื้นที่กว่า 30,000 ตรม. หวนคืนบรรยากาศกลับสู่เส้นทางวิถีไทยแบบดั้งเดิม ในงานลอยกระทง ประจำปี 2552 ตลอด 2 วันในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้
เมื่อค่ำวานนิ้ (14 ต.ค.) บริเวณลานมยุรา ริมฝั่งลำน้ำบางปะกง ถนนมรุพงษ์ หน้าโรงพยาบาลเมืองฉะเชิงเทรา นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา นางเยียรยง ไชยรัตน์ ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพฯ นายพิสิฐ เสนานันท์สกุล ศิลปินนักถ่ายภาพไทย ปี 2552 และนักร้องชื่อดัง อี้ด วงฟลาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมจัดงานลอยกระทงครั้งยิ่งใหญ่ “ย้อนเวลาหาวิถีไทย” ปีที่ 9 ประจำปี 2552 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1-2 พ.ย.52 นี้
โดยในงานได้จัดเตรียมพื้นที่บริเวณริมฝั่งลำน้ำบางปะกงไว้กว่า 30,000 ตร.ม. เพื่อเตรียมเนรมิตพื้นที่ให้หวนกลับคืนสู่บรรยากาศแบบเก่า ดั้งเดิมในวิถีชุมชนไทย เพื่อถ่ายทอดวิถีไทย ให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสสัมผัส ถึง 5 โซน คือ วิถีกระทงไทย วิถีปลายจวักและวิถีชุมชน วิถีเวียงวัง และวิถีชุมชนไทย ได้อย่างครบถ้วน รวมทั้งยังได้เตรียมพื้นที่พิเศษ คือ ลานมยุรา สำหรับเมนูอาหารไทย 4 ภาค ที่หาชิมลิ้มลองได้ยาก
การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทยแท้แต่โบราณ ด้วยการถ่ายทอดให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวเมืองแปดริ้วที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน และมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น ทั้งในด้านวิถีชีวิตที่อยู่คู่แม่น้ำบางปะกง และประเพณีแบบไทยโบราณพื้นบ้าน ผ่านงานลอยกระทงครั้งยิ่งใหญ่ ปีที่ 9 นี้
ขณะที่การแสดง แสง เสียง เรื่อง “จากมหานทีแห่งนาคา สู่สายธาราแห่งพญามังกร” พร้อมการแสดงพลุ ตระการตา และการสร้างสรรค์กระทงไทย ผ่านการประกวดกระทงใบตอง และวัสดุธรรมชาติ ร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมรณรงค์ให้ลอยกระทงด้วยใบตอง และกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ รวมทั้งผู้มาร่วมเที่ยวงาน ยังจะได้สัมผัสกับศิลปภาพถ่ายในแต่ละยุคสมัยของเมืองแปดริ้ว ผ่านการประกวดภาพถ่ายที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ซึ่งในปีนี้ได้จัดการประกวดขึ้นในหัวข้อ “ภาพเก่าเล่าเรื่อง เมืองฉะเชิงเทรา” และ “ภาพใหม่แปดริ้ว เมืองน่าอยู่”
การจัดงานครั้งนี้ได้มุ่งเน้นให้ผู้ร่วมงานแต่งกายด้วยชุดผ้าไทยย้อนยุค หรือนุ่งโจง ห่มจีบ เพื่อรับของที่ระลึกมอบให้กับผู้ที่ร่วมแต่งกายไทยย้อนยุคเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ส่วนลานวิถีปลายจวัก และวิถีชุมชนนั้น ได้จัดให้เป็นลานอนุรักษ์อาหารไทย และอาหารพื้นบ้านที่หารับประทานได้ยาก เพื่อเป็นเสน่ห์แสดงถึงวัฒนธรรมอาหารของไทย ในเสน่ห์ปลายจวัก โดยมีร้านค้ากว่า 170 ร้านเข้ามาร่วมงาน และร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ภาชนะที่ทำมาจากธรรมชาติใส่อาหารอีกด้วย