แม่ฮ่องสอน - แผนเปิดจุดผ่อนปรนไทย-พม่าบ้านน้ำเพียงดิน เมืองสามหมอกยังไร้ผล ชี้วันนี้ยังเป็นการเปิดเฉพาะฝั่งไทย ด้านหอการค้าฯเตรียมเชิญตัวแทนรัฐ-เอกชนพม่าเข้าหารือเดือนหน้า หาแนวทางพัฒนาการค้าชายแดน
นายสุพจน์ กลิ่นปราณีต ประธานหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หลังจากที่จังหวัด ได้เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ไปเมื่อปลายเดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านา ปรากฏว่า ขณะนี้ก็ยังไม่มีพ่อค้าชาวไทยและชาวพม่าแลกเปลี่ยน-ซื้อขายสินค้ากันแต่อย่างใด เนื่องจากยังเป็นการเปิดเฉพาะฝั่งไทยฝ่ายเดียว ยังขาดหลักการต่างๆ เป็นอย่างมาก ขณะนี้กลุ่มพ่อค้าไทยกำลังรอทางภาคราชการว่าจะดำเนินการอย่างจริงจังเมื่อใด
ประธานหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า การค้าชายแดนช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน กลุ่มพ่อค้าไทยพร้อมตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ฝ่ายข้าราชการว่าจะดำเนินการอย่างไร กฏระเบียบต่างๆ ภาคราชการจะต้องเป็นผู้กำหนดขึ้นมา ซึ่งจนถึงขณะนี้ภาครัฐยังไม่กำหนดท่าทีแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนยังมีความหวังว่าจะต้องทำการค้ากับประเทศพม่าผ่านจุดผ่อนปรนช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ให้ได้โดยได้เชิญคณะกรรมการหอการค้าประเทศพม่า และภาครัฐของพม่า มาประชุมกันที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนราวปลายเดือนพฤศจิกายน 2552 เชื่อว่าจะทำให้การค้าชายแดนน่าจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ด้าน น.ส.เยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่งสอน รายงานภาวะการค้าชายแดนไทย-พม่า ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำเดือนกันยายน 2552 ว่า มูลค่าการค้ารวม จำนวน 7.83ล้านบาท ลดลง 0.94 ล้านบาท คิดเป็น -10.72% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนการคมนาคมลำบาก ทำให้มีการส่งออก-นำเข้า สินค้าที่จำเป็นแก่การดำรงชีพลดลง
มูลค่าการส่งออก จำนวน 7.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.60 ล้านบาท คิดเป็น 26.67% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ประเภทสินค้าที่มีการส่งออกมาก 10 อันดับ ได้แก่ รถบรรทุกเก่าใช้แล้ว หลอดฟลูออเรสเซนต์ รองเท้าแตะฟองน้ำ น้ำมันพืช ข้าวชัยนาท 35% ยารักษาโรค สินค้าอุปโภค บริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง ผงชูรส ผงซักฟอก
มูลค่าการนำเข้า จำนวน 0.23 ล้านบาท ลดลง 2.53ล้านบาท คิดเป็น -91.67% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาสินค้าที่นำเข้ามาก ได้แก่ เมล็ดงา สินค้าอุปโภค บริโภค ถั่วเหลือง วงล้อเกียว มันงา ดุลการค้า (เกินดุล) จำนวน 7.37 เพิ่มขึ้น จำนวน 4.13 ล้านบาท คิดเป็น 127.47% เมื่อเทียบกับดุลการค้าเกินดุล ของเดือนที่ผ่านมา
นายสุพจน์ กลิ่นปราณีต ประธานหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หลังจากที่จังหวัด ได้เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ไปเมื่อปลายเดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านา ปรากฏว่า ขณะนี้ก็ยังไม่มีพ่อค้าชาวไทยและชาวพม่าแลกเปลี่ยน-ซื้อขายสินค้ากันแต่อย่างใด เนื่องจากยังเป็นการเปิดเฉพาะฝั่งไทยฝ่ายเดียว ยังขาดหลักการต่างๆ เป็นอย่างมาก ขณะนี้กลุ่มพ่อค้าไทยกำลังรอทางภาคราชการว่าจะดำเนินการอย่างจริงจังเมื่อใด
ประธานหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า การค้าชายแดนช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน กลุ่มพ่อค้าไทยพร้อมตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ฝ่ายข้าราชการว่าจะดำเนินการอย่างไร กฏระเบียบต่างๆ ภาคราชการจะต้องเป็นผู้กำหนดขึ้นมา ซึ่งจนถึงขณะนี้ภาครัฐยังไม่กำหนดท่าทีแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนยังมีความหวังว่าจะต้องทำการค้ากับประเทศพม่าผ่านจุดผ่อนปรนช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ให้ได้โดยได้เชิญคณะกรรมการหอการค้าประเทศพม่า และภาครัฐของพม่า มาประชุมกันที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนราวปลายเดือนพฤศจิกายน 2552 เชื่อว่าจะทำให้การค้าชายแดนน่าจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ด้าน น.ส.เยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่งสอน รายงานภาวะการค้าชายแดนไทย-พม่า ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำเดือนกันยายน 2552 ว่า มูลค่าการค้ารวม จำนวน 7.83ล้านบาท ลดลง 0.94 ล้านบาท คิดเป็น -10.72% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนการคมนาคมลำบาก ทำให้มีการส่งออก-นำเข้า สินค้าที่จำเป็นแก่การดำรงชีพลดลง
มูลค่าการส่งออก จำนวน 7.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.60 ล้านบาท คิดเป็น 26.67% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ประเภทสินค้าที่มีการส่งออกมาก 10 อันดับ ได้แก่ รถบรรทุกเก่าใช้แล้ว หลอดฟลูออเรสเซนต์ รองเท้าแตะฟองน้ำ น้ำมันพืช ข้าวชัยนาท 35% ยารักษาโรค สินค้าอุปโภค บริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง ผงชูรส ผงซักฟอก
มูลค่าการนำเข้า จำนวน 0.23 ล้านบาท ลดลง 2.53ล้านบาท คิดเป็น -91.67% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาสินค้าที่นำเข้ามาก ได้แก่ เมล็ดงา สินค้าอุปโภค บริโภค ถั่วเหลือง วงล้อเกียว มันงา ดุลการค้า (เกินดุล) จำนวน 7.37 เพิ่มขึ้น จำนวน 4.13 ล้านบาท คิดเป็น 127.47% เมื่อเทียบกับดุลการค้าเกินดุล ของเดือนที่ผ่านมา