xs
xsm
sm
md
lg

วอน “มาร์ค” ช่วย 151 แรงงานไทยที่ลิเบียกลับบ้าน - สุดช้ำถูกเบี้ยวค่าจ้างครบสัญญานายจ้างไม่ยอมส่งกลับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ญาติ 151 แรงงานไทยที่ตกค้างในประเทศลิเบีย เข้าร้องเรียนต่อเครือข่ายช่วยเหลือแรงงานไทยในต่างแดน ให้ช่วยคนงานไทยที่ตกค้างกลับบ้านเกิด
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ญาติ 151 แรงงานไทย ตกค้างที่ประเทศลิเบีย เดือดร้อนหนัก พึ่งกระทรวงต่างประเทศ แต่กลับไม่คืบหน้า ชี้ คนงานไทยถูกโกงทั้งค่าจ้างรายเดือน หมดสัญญาไม่ยอมส่งกลับ แต่ถูกนายจ้างบังคับให้ทำงานต่อแบบไร้ค่าจ้าง ด้านเครือข่ายช่วยเหลือแรงงานไทยในต่างแดน ที่ จ.ขอนแก่น วอน รมว.แรงงาน นายกฯ “อภิสิทธิ์” เร่งให้การช่วยเหลือคนงานไทยกลับบ้านเกิดด่วน จี้ ตรวจสอบบริษัทจัดส่งคนงาน หากมีความผิดให้ลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา

วันนี้ (7 ต.ค.) ที่ศูนย์กฎหมายเพื่อสังคม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) มีตัวแทนญาติ 151 แรงงานไทย ที่ตกค้างอยู่ในประเทศลิเบีย จากจังหวัดหนองบัวลำภู ขอนแก่น อุบลราชธานี และนครราชสีมา จำนวน 23 คน เข้าร้องเรียนกับเครือข่ายช่วยเหลือแรงงานไทยในต่างแดน ให้ช่วยเหลือแรงงานไทยทั้ง 151 คน ที่ตกค้างอยู่ในประเทศลิเบีย กลับประเทศ เพราะหมดสัญญาจ้างตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 52 ที่ผ่านมา แต่นายจ้างไม่ยอมส่งกลับ

นางเดือนเฮือง กาวิ อายุ 30 ปี ชาวอำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู ภรรยาของวสันต์ กาวิ เปิดเผยว่า สามีเป็น 1 ใน 151 คนงาน ที่ประเทศลิเบีย การทำงานก็ไม่เป็นไปตามสัญญาจ้าง โดยบริษัทนายหน้าจัดส่งคนงาน อ้างว่า คนงานไทยจะได้รับจ้างคิดเป็นเงินไทยสูงถึง 25,000 บาท/เดือน ตนจึงยอมกู้เงินเป็นเงินค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 141,000 บาท เป็นค่าตรวจโรค ค่าเครื่องบินไป-กลับ สัญญาจ้าง 2 ปี เดินทางไปทำงานตั้งแต่ 24 พฤษภาคม 2550

แต่ข้อเท็จจริง สภาพความเป็นอยู่ที่ประเทศลิเบียมีความลำบาก นายจ้างลิเบียจ่ายค่าจ้างเฉลี่ยแค่เดือนละ 12,000-15,000 บาทเท่านั้น อ้างว่า บริษัทกำไรน้อย บางเดือนคนงานไทยต้องประท้วงขอค่าจ้าง ทั้งทำโอทีก็ไม่ได้รับเงิน มีบางเดือนที่ไม่จ่ายค่าจ้างเลย ที่สำคัญ คนงานไทยทุกคนถูกนายจ้างยึดพาสปอร์ตไว้

ปัญหาดังกล่าว ตนได้สอบถามกลับไปยังบริษัทจัดหางาน ถึงเหตุผลไม่เป็นไปตามสัญญาจ้าง แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงว่า คนงานไทยรายอื่นที่ทำงานอยู่ประเทศลิเบีย ไม่เคยมีปัญหาในลักษณะนี้ ทั้งไม่ยอมเจรจาที่จะเข้ามารับผิดชอบช่วยเหลือแต่อย่างใด

ซ้ำร้ายเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ก่อนจะครบสัญญาจ้าง สามีตนประสบอุบัติเหตุถูกรถชนที่ลิเบีย ได้รับบาดเจ็บสาหัสแขนขวาหัก และต้องผ่าตัดช่องท้องถึง 2 ครั้ง แต่นายจ้างชาวลิเบียกลับไม่ดูแลคนงานไทย คนงานไทยต้องดูแลช่วยเหลือสามีตน ขณะที่คนงานอื่น ถูกนายจ้างบังคับให้ทำงานต่อ แต่จะไม่จ่ายค่าจ้าง รับผิดชอบเพียงแค่อาหารประทังชีวิตแต่ละวันเท่านั้น

ส่วนการช่วยเหลือ เพื่อนำสามีตนกลับมารักษาที่บ้านเกิด ประสบปัญหามาก เพราะลิเบียไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย ตนได้ทำหนังสือไปยังทูตแรงงานไทย ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอารเบีย ให้การช่วยเหลือ โดยระบุว่า จะส่ง นายวสันต์ กลับมาช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ถึงขณะนี้ ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ถึงวันนี้ ไม่ต้องการอะไรแล้ว อยากขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ช่วยสามีตนและคนงานไทยรายอื่น กลับเมืองไทยเท่านั้น

จี้รัฐบาลอภิสิทธิ์เร่งให้การช่วยเหลือ

นายสมศักย์ ทองเอี่ยม หัวหน้าศูนย์กฎหมายเพื่อสังคม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า แรงงานไทยทั้ง 151 คน ได้ไปทำงานกับบริษัท CKG และบริษัทอื่นในประเทศลิเบีย ผ่านบริษัทจัดหางานโดยสัญญาจ้าง 2 ปี ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2550 สิ้นสุดเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่นายจ้างไม่ส่งคนงานกลับตามสัญญา ทำให้คนงานไทยได้รับความลำบากมาก ไม่มีรายได้มาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว อาหารมีเพียงน้ำต้มผักประทังชีวิตเท่านั้น

ที่ผ่านมา แรงงานไทยในลิเบียได้ขอความช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือ แต่ทางบริษัทไม่ดำเนินการตามที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งให้บริษัท CKG ดำเนินการ กระทั่งถึงปัจจุบันแรงงานไทย ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานใดเลย

ส่วนญาติที่อยู่ในเมืองไทย ก็ได้รับความเดือดร้อนมากเช่นกัน เบื้องต้นแต่ละครอบครัวรู้สึกเป็นห่วงในชะตากรรมคนงานไทยที่ลิเบียมาก ทั้งแต่ละครอบครัวมีฐานะยากจน ในระยะที่หมดสัญญา ก็ไม่มีรายได้ส่งคืนกลับมาที่เมืองไทย แต่ทางบ้านต้องมีค่าใช้จ่ายชำระหนี้สินที่ไปกู้ยืม มาเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นหนี้เงินกู้นอกระบบ เฉลี่ยรายละ 150,000-200,000 บาท

เครือข่ายช่วยเหลือแรงงานไทยในต่างแดน ประกอบด้วย ศูนย์กฎหมายเพื่อสังคม คณะนิติศาสตร์ มข., ศูนย์ส่งเสริมสิทธิกรรมกรไทย, สมาคมผู้บริโภคจังหวัดขอนแก่น และครอบครัวแรงงานไทยในลิเบีย จึงขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือต่อแรงงานไทยให้ได้กลับประเทศไทย

และขอเรียกร้องต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้นำแรงงานไทยที่ตกค้างในประเทศลิเบีย 151 คน กลับปรเทศไทยโดยด่วน ทั้งขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจสอบบริษัทที่จัดส่งแรงงานไปทำงานยังประเทศลิเบีย หากมีมูลความผิดให้ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา รวมทั้งชดใช้ค่าเสียหายให้กับแรงงานไทย พร้อมทั้งยกเลิกใบอนุญาตจัดส่งแรงงาน

ทั้งขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เรียกค่าจ้างพร้อมค่าเสียหายอื่น ที่บริษัทในประเทศลิเบียผิดสัญญา พร้อมจัดหาตำแหน่งงานรองรับแรงงานไทยที่กลับจากประเทศลิเบีย ให้มีงานรองรับในประเทศไทยด้วย โดยวันที่ 15 ตุลาคม เครือข่ายช่วยเหลือแรงงานไทยในต่างแดน จะเดินทางไปเข้าพบ รมว.แรงงาน เพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้การช่วยเหลือคนงานไทยทั้ง 151 คนต่อไป
เครือข่ายช่วยเหลือแรงงานไทยในต่างแดน ได้ทำหนังสือเตรียมยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ความช่วยเหลือคนงานไทยที่ตกค้างอยู่ประเทศลิเบียกลับประเทศ

นายเดือนเฮือง  กาวิ ภรรยานายวสันต์ กาวิ 1 ใน 151 คนงาน รอความหวังให้รัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือสามีและคนงานไทย กลับบ้านเกิด
กำลังโหลดความคิดเห็น