สระแก้ว - เจ้าหน้าที่กักกันสัตว์สระแก้ว วางมาตรการเข้มเฝ้าระวังขยายพันธุ์หวัดนกและโรคหวัด 2009 ช่วงปลายฝนต้นลมหนาว ชายแดนไทย-กัมพูชา และภาคตะวันออก
วันนี้ (6 ต.ค.) นายวิบูลย์ ศรีมั่นคงธรรม หัวหน้าด่านกลุ่มงานกักกันสัตว์ที่ 2 ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด และจังหวัดสระแก้ว ระดมเข้าหน้าที่พร้อมรถยนต์และอุปกรณ์เครื่องพ่นยาฆ่าเชื่อเข้ามาติดตั้ง บริเวณช่องทางผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ขาเข้าฝั่งไทย เพื่อฉัดยาฆ่าเชื่อทั้งรถเข็นกรรมกรแรงงานชาวกัมพูชานำเข้ามารับจ้างขายแรงงาน พร้อมรถยนต์ทุกชนิดส่งสินค้าฝั่งปอยเปตประเทศกัมพูชา มีมากกว่า 4 พันคัน นับว่า มีมากสุดในภูมิภาคชายแดนไทย และจังหวัดสระแก้ว
การดำเนินการดังกล่าวนั้น เพื่อเป็นแนวทางป้องกันปราบปรามการแพร่ระบาดของโรคหวัดนกและไข้หวัดใหญ่ 2009 ตามแนวพรหมแดนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มาจากสถานการณ์ ปัจจุบัน เป็นช่วงรอยต่อระหว่างปลายฝนเข้าลมหนาว ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาพอากาศ อาจทำให้สัตว์ปีกอ่อนแอและมีภูมิคุ้มกันลดลง ซึ่งจะมีผลในช่วงของเดือนแต่ สิงหาคม-กุมภาพันธ์ ปี 2553 ที่กำลังมาถึงนี้
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า เพราะจะมีสัตวปีกประเภทนกอพยพจากซีกโลกตอนบนจากประเทศ รัสเซีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น โดยเฉพาะจากประเทศกัมพูชา และเวียดนาม เข้ามาอยู่อาศัยหากินภายในของประเทศไทย ที่อาจนำเชื้อไข้หวัดนกเข้ามาแพร่ระบาดได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาของโรคไข้หวัดนกตามดังกล่าว จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่กลุ่มกักกันสัตว์ 5 จังหวัด ที่มีรอยติดต่อกับประเทศกัมพูชา ลงพื้นที่เฝ้าระวังด้วยระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่และเครือญข่าย พร้อมอุปกรณ์รถยนต์เครื่องพ่นฉีดยาฆ่าเชื้อโรคไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่ 2009 ตลอดแนวชายแดนภาคตะวันออกที่ 2
พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกลุ่มเกษตรกรทั้งที่เลี้ยงสัตว์ต่างๆ ในครัวเรือนเพื่อสุขภาพสัตว์ปีก และพ่นฉีดยาฆ่าเชื้อตามพื้นที่จุดเสี่ยง หากตรวจพบสัตว์ปีกป่วยตายตามนิยามโรคไข้หวัดนก ให้ทำลายสัตว์ปีกดังกล่าวด้วยการฝังกลบทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อของโรคเกิดการแพร่ระบาดกระจายออกไป นอกจากนั้น ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ป้องกันแก้ไขและเตรียมความพร้อมรับปัญหา หากเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนก ควบคู่กับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 อย่างเข้มงวด ที่มีผลมาจากความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคไข้หวัดนกที่มาจาก สภาพของอากาศ ลม ฝน ทำให้เกิดสภาพอากาศหนาวเย็นตามพื้นที่ ตลอดจนนกจากธรรมชาติ และนกที่มาจากการอพยพ
นายวิบูลย์ กล่าวว่า โรคไข้หวัดนก ทุกประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญและมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งการเกิดโรคในสัตว์ปีกและสู่คน ซึ่งเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2552 ผ่านมา จากประเทศมองโกเลียมีรายงานตรวจพบ โรคไข้หวัดนกชนิด H 5 ในนกธรรมชาติ และจากองค์การอนามัยโลก (WHO) พบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดนกในประเทศอียิปต์ จำนวน 2 ราย ที่ปัจุจบันเป็นช่วงรอยต่อระหว่างปลายฝนต้นลมหนาว ที่มีการเปลี่ยนแปลงจากสภาพอากาศ เป็นปัจจัยสำคัญที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้หวัดนก หากนกอพยพเข้ามาในประเทศไทย นำเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ๆ เข้ามาด้วย อาจทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมระหว่าง แต่ละสายพันธุ์ จะทำให้เกิดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่มีความรุนแรงมากขึ้น และทำให้เกิดการระบาดของโรคกว้างขวางได้
ขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่อง ตลอดริมแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ภาคตะวันออก 5 จังหวัด เพื่อค้นหาและกำจัดโรคไข้หวัดนกให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดมาสู่คน ที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยมีการสุ่มเก็บตัวอย่างมูลสัตว์ปีก พร้อมออกตรวจสอบตามหมู่บ้านเกษตรกรทั่วไปตามแนวชายแดน เพื่อสร้างความมั่นใจปลอดภัย จากโรคไข้หวัดนก โดยจัดมีการรณรงค์ทำความสะอาดควบคู่กับการทำลาย เชื้อโรคไข้หวัดนก ตามพื้นที่สี่ยง ที่อาจมีการปรนเปื้อน ตามสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ ยังมีการควบคุมย้ายสัตว์เคลื่อนที่และซากสัตว์ ที่จะต้องได้รับการเคลื่อนย้ายสัตว์ต่างๆ อย่างเด็ดขาดในขณะนี้ จากทางจังหวัดสระแก้ว
วันนี้ (6 ต.ค.) นายวิบูลย์ ศรีมั่นคงธรรม หัวหน้าด่านกลุ่มงานกักกันสัตว์ที่ 2 ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด และจังหวัดสระแก้ว ระดมเข้าหน้าที่พร้อมรถยนต์และอุปกรณ์เครื่องพ่นยาฆ่าเชื่อเข้ามาติดตั้ง บริเวณช่องทางผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ขาเข้าฝั่งไทย เพื่อฉัดยาฆ่าเชื่อทั้งรถเข็นกรรมกรแรงงานชาวกัมพูชานำเข้ามารับจ้างขายแรงงาน พร้อมรถยนต์ทุกชนิดส่งสินค้าฝั่งปอยเปตประเทศกัมพูชา มีมากกว่า 4 พันคัน นับว่า มีมากสุดในภูมิภาคชายแดนไทย และจังหวัดสระแก้ว
การดำเนินการดังกล่าวนั้น เพื่อเป็นแนวทางป้องกันปราบปรามการแพร่ระบาดของโรคหวัดนกและไข้หวัดใหญ่ 2009 ตามแนวพรหมแดนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มาจากสถานการณ์ ปัจจุบัน เป็นช่วงรอยต่อระหว่างปลายฝนเข้าลมหนาว ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาพอากาศ อาจทำให้สัตว์ปีกอ่อนแอและมีภูมิคุ้มกันลดลง ซึ่งจะมีผลในช่วงของเดือนแต่ สิงหาคม-กุมภาพันธ์ ปี 2553 ที่กำลังมาถึงนี้
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า เพราะจะมีสัตวปีกประเภทนกอพยพจากซีกโลกตอนบนจากประเทศ รัสเซีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น โดยเฉพาะจากประเทศกัมพูชา และเวียดนาม เข้ามาอยู่อาศัยหากินภายในของประเทศไทย ที่อาจนำเชื้อไข้หวัดนกเข้ามาแพร่ระบาดได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาของโรคไข้หวัดนกตามดังกล่าว จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่กลุ่มกักกันสัตว์ 5 จังหวัด ที่มีรอยติดต่อกับประเทศกัมพูชา ลงพื้นที่เฝ้าระวังด้วยระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่และเครือญข่าย พร้อมอุปกรณ์รถยนต์เครื่องพ่นฉีดยาฆ่าเชื้อโรคไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่ 2009 ตลอดแนวชายแดนภาคตะวันออกที่ 2
พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกลุ่มเกษตรกรทั้งที่เลี้ยงสัตว์ต่างๆ ในครัวเรือนเพื่อสุขภาพสัตว์ปีก และพ่นฉีดยาฆ่าเชื้อตามพื้นที่จุดเสี่ยง หากตรวจพบสัตว์ปีกป่วยตายตามนิยามโรคไข้หวัดนก ให้ทำลายสัตว์ปีกดังกล่าวด้วยการฝังกลบทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อของโรคเกิดการแพร่ระบาดกระจายออกไป นอกจากนั้น ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ป้องกันแก้ไขและเตรียมความพร้อมรับปัญหา หากเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนก ควบคู่กับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 อย่างเข้มงวด ที่มีผลมาจากความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคไข้หวัดนกที่มาจาก สภาพของอากาศ ลม ฝน ทำให้เกิดสภาพอากาศหนาวเย็นตามพื้นที่ ตลอดจนนกจากธรรมชาติ และนกที่มาจากการอพยพ
นายวิบูลย์ กล่าวว่า โรคไข้หวัดนก ทุกประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญและมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งการเกิดโรคในสัตว์ปีกและสู่คน ซึ่งเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2552 ผ่านมา จากประเทศมองโกเลียมีรายงานตรวจพบ โรคไข้หวัดนกชนิด H 5 ในนกธรรมชาติ และจากองค์การอนามัยโลก (WHO) พบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดนกในประเทศอียิปต์ จำนวน 2 ราย ที่ปัจุจบันเป็นช่วงรอยต่อระหว่างปลายฝนต้นลมหนาว ที่มีการเปลี่ยนแปลงจากสภาพอากาศ เป็นปัจจัยสำคัญที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้หวัดนก หากนกอพยพเข้ามาในประเทศไทย นำเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ๆ เข้ามาด้วย อาจทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมระหว่าง แต่ละสายพันธุ์ จะทำให้เกิดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่มีความรุนแรงมากขึ้น และทำให้เกิดการระบาดของโรคกว้างขวางได้
ขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่อง ตลอดริมแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ภาคตะวันออก 5 จังหวัด เพื่อค้นหาและกำจัดโรคไข้หวัดนกให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดมาสู่คน ที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยมีการสุ่มเก็บตัวอย่างมูลสัตว์ปีก พร้อมออกตรวจสอบตามหมู่บ้านเกษตรกรทั่วไปตามแนวชายแดน เพื่อสร้างความมั่นใจปลอดภัย จากโรคไข้หวัดนก โดยจัดมีการรณรงค์ทำความสะอาดควบคู่กับการทำลาย เชื้อโรคไข้หวัดนก ตามพื้นที่สี่ยง ที่อาจมีการปรนเปื้อน ตามสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ ยังมีการควบคุมย้ายสัตว์เคลื่อนที่และซากสัตว์ ที่จะต้องได้รับการเคลื่อนย้ายสัตว์ต่างๆ อย่างเด็ดขาดในขณะนี้ จากทางจังหวัดสระแก้ว