อุบลราชธานี- เทศบาลนครอุบลราชธานี จัดงานออกพรรษาไหลเรือไฟ แข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมการแสดงดนตรีพื้นบ้าน 9 วัน 9 คืน
นางรจนา กัลป์ตินันท์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุบลราชธานี กล่าวถึงการจัดงานประเพณีงานประเพณีออกพรรษา ไหลเรือไฟ ลอยกระทง และการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี2552 ระหว่างวันที่ 4-12 ตุลาคม ที่แม่น้ำมูลบริเวณท่าน้ำตลาดสดเทศบาล 3 (ตลาดใหญ่) ถ.อุปราช ต.ในเมือง โดยตลอด 9 วัน จะมีการจำหน่ายอาหารเทศกาลอาหารไทย-อินโดจีน
บ่ายวันที่ 4 ต.ค.มีการเคลื่อนริ้วขบวนการแสดงไปที่ท่าน้ำ พร้อมทำพิธีบวงสรวงแม่น้ำมูลก่อนเปิดงานเทศกาลประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ
ปีนี้มีชุมชนส่งเรือไฟที่ประดับด้วยไฟฟ้าและประดับด้วยไต หรือตะเกียง เข้าร่วมประกวดชิงถ้วยพระราชทานของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จำนวน 20 ลำ พร้อมประกวดกระทงขนาดใหญ่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งส่งเข้าชิงรางวัล 35 กระทง และวันดังกล่าวประชาชนจะร่วมกับสำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี ปล่อยกระทงขนาดเล็กจำนวน 20,000 กระทง ให้ลอยไปตามลำแม่น้ำมูล เพื่อปล่อยความทุกข์โศกโรคภัยตามคติความเชื่อในอดีตไปกับสายน้ำด้วย
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 5-9 ต.ค.มีพิธีตักบาตรเทโวโรหนะ พร้อมจัดประกวดการแสดงดนตรีพื้นบ้าน และการแสดงของศิลปินพื้นเมืองชื่อดัง อาทิ ป.ฉลาดน้อย อังคณา คูณไชย บานเย็น รากแก่น และการแสดงคอนเสิร์ตของวงเสถียร ทำมือ ส่วนวันที่ 10 ต.ค.เริ่มแข่งขันเรือยาวรอบคัดเลือกชิงถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และถ้วยพระราชทานของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
วันที่ 11 ต.ค.เป็นการแข่งขันเรือยาวรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งปีนี้มีเรือยาวขนาดใหญ่ 41-55 ฝีพาย เรือยาวขนาดกลาง 31-40 ฝีพาย และเรือยาวเล็ก 21-30 ฝีพาย เดินทางจากลุ่มน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ เข้าร่วมแข่งขันชิงถ้วยรางวัลพระราชทานทั้งสิ้น 40 ลำ
โดยเรือยาวขนาดใหญ่ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงิน 100,000 บาท ชนะเลิศเรือยาวขนาดกลางและเล็กได้รับถ้วยพระราชทานของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมเงินรางวัล 60,000 บาท และ 40,000 บาทตามลำดับ สำหรับวันสุดท้ายเป็นงานเทศกาลอาหารไทย-อินโดจีน
