สระแก้ว - เจ้าหน้าที่ตำรวจอรัญประเทศ นำกำลังเข้าจับกุมขบวนการโจรกรรมรถยนต์ส่งขายประเทศกัมพูชา
วันที่ (30 ก.ย.) พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ร่วมกับ พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพนิช ผกก.สภ.อรัญประเทศ พ.ต.ท.จารึก โชติโก พงส.สบ.3 สภ.อรัญประเทศ ร่วมกันแถลงข่าวการจับแก๊งโจรกรรมรถยนต์ส่งขายประเทศกัมพูชา หลังสืบสวนทราบว่าจะมีขบวนการโจรกรรมรถยนต์ ซึ่งจะนำรถยนต์ที่ได้มาจากการโจรกรรมเข้ามาในพื้นที่เพื่อส่งขายยังประเทศกัมพูชา
จากนั้นจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สาคร กัณหา สว.สส.สภ.อรัญประเทศ พร้อมชุดสืบสวนออกสืบจนทราบว่า มีกลุ่มคนร้ายนำรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาเสนอขายให้ชาวกัมพูชาในราคา 1 แสนบาท เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมสั่งการให้ดำเนินการล่อชื้อเพื่อทำการจับกุม
ต่อมา พ.ต.ท.สาคร ได้ติดต่อล่อชื้อและต่อรองราคาลงมาที่ราคา 5 หมื่นบาท โดยนัดส่งมอบรถยนต์กันที่ ร.ร.เทศบาลกิโลสอง ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และในเวลาต่อมาจึงได้นำกำลังไปทำการล่อชื้อจับกุมได้ในบริเวณดังกล่าว ทราบชื่อนายสำเริง หรือ ปุ้ม รูปงามสม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/56 หมู่ 4 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ขับขี่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน สห 6640 กรุงเทพฯ เข้ามาในบริเวณโรงเรียน เพื่อส่งมอบรถยนต์ตรงกับสายรายงานมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นและจับกุม
สอบสวน นายสำเริง หรือ ปุ้ม รูปงามสม ให้การรับสารภาพว่า ได้โจรกรรมรถเก๋งคันดังกล่าวมาจากบริษัท มาซาริน จำกัด เลขที่ 5 ถ.สุขุมวิท ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อส่งขายยังประเทศกัมพูชา และนำเงินนำมาเล่นการพนันในบ่อนคาสิโน ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และได้โจรกรรมรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา ทะเบียน ชข 6731 กรุงเทพฯ อีก 1 คัน โดยให้นายสมรอง รูปงามสม อายุ 28 ปี เป็นน้องชาย นำไปขายยังชายแดนทางภาคเหนือ และรถยนต์เก๋งทั้ง 2 คัน ทางบริษัท มาซารีน จำกัด ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ที่ผ่านมา ตนเคยทำงานในบริษัทดังกล่าว แต่มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน จึงได้ลาออกมาเมื่อ 1 ก.ย.2552 ที่ผ่านมา และระยะหลังเล่นการพนันและเสียไม่มีเงิน จึงให้น้องชายไปขโมยกุญแจรถยนต์เก๋งดังกล่าว มาเพื่อนำไปขายเขมร เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมรถของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป