ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มแสบตระเวนตุ๋นตำรวจมาเกือบร้อยโรงพักทั้งต่างจังหวัดและใน กทม.อ้างรู้แหล่งค้ายาเสพติด พอสบโอกาสขอเงินค่าสายลับบอกข่าว เคยได้มากสุด 4 หมื่นบาทสุดท้ายโดนซ้อนแผนรวบตัว
วันนี้ (29 ก.ย.) กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พันตำรวจโท ไชยกฤษณ์ ทองอินทร์ สารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวนจังหวัดชลบุรี แถลงข่าวการจับกุมตัว นายปกรณ์ เพ็ชรแดง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 ถนนราชพฤกษ์ ซอย 1 แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ กทม.
โดยมีพฤติกรรม ทำทีเป็นสายลับ โทรศัพท์มาแจ้งตำรวจว่ารู้แหล่งของเอเยนต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ในจังหวัดชลบุรี และขอเงินค่าสายลับ หลังจากนั้น มีการระดมกำลังเพื่อวางแผนทลายแหล่งตามที่ นายปกรณ์ แจ้ง แต่ พ.ต.ท.ไชยกฤษณ์ เกิดเอ๊ะใจจึงได้ปรึกษากับทีมงานถึงที่มาของแหล่งข่าว
จนปรากฏว่าภายในทีมสืบสวนจังหวัดชลบุรี เคยโดนหลอกในลักษณะนี้มาแล้ว 4 ครั้ง และทุกครั้งก็คว้าน้ำเหลว เพราะไม่มีเอเยนต์ค้ายาบ้าจริง แถมถูกหลอกเอาเงินค่าข่าวไปอีก จึงซ้อนแผนโดยหลอกให้นายปกรณ์เหมารถแท็กซี่จากกรุงเทพมาชลบุรี เพื่อมารับเงิน ก่อนจะที่รวบตัวไว้ได้
นายปกรณ์ รับสารภาพว่า ทำมาแล้วเกือบร้อยครั้ง โดยจะตระเวนโทรศัพท์ไปยัง สภ.ต่างๆ โดยหลอกว่าทราบแหล่งค้ายา แต่ต้องการค่าข่าว ซึ่งบาง สภ.ที่ผู้กำกับหรือสารวัตร ต้องการสร้างผลงาน ก็ยอมจ่ายเงินตั้งแต่ 3,000 บาท และครั้งที่ได้มากที่สุดเคยได้ถึง 4 หมื่นบาท
ด้าน พ.ต.ท.ไชยกฤษณ์ เปิดเผยว่า คงจะไม่มี สภ.ใดมาแจ้งความข้อหาต้มตุ๋น เพราะกลัวเสียหน้า ที่เป็นตำรวจแต่ยังถูกหลอก จึงทำได้แค่จับในข้อหาเสพยาเพราะจากการตรวจฉี่ ปรากฏว่าฉี่สีม่วงและอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับ สภ.ต่างๆ ไม่ให้โดนหลอกอีกต่อไป
วันนี้ (29 ก.ย.) กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พันตำรวจโท ไชยกฤษณ์ ทองอินทร์ สารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวนจังหวัดชลบุรี แถลงข่าวการจับกุมตัว นายปกรณ์ เพ็ชรแดง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 ถนนราชพฤกษ์ ซอย 1 แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ กทม.
โดยมีพฤติกรรม ทำทีเป็นสายลับ โทรศัพท์มาแจ้งตำรวจว่ารู้แหล่งของเอเยนต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ในจังหวัดชลบุรี และขอเงินค่าสายลับ หลังจากนั้น มีการระดมกำลังเพื่อวางแผนทลายแหล่งตามที่ นายปกรณ์ แจ้ง แต่ พ.ต.ท.ไชยกฤษณ์ เกิดเอ๊ะใจจึงได้ปรึกษากับทีมงานถึงที่มาของแหล่งข่าว
จนปรากฏว่าภายในทีมสืบสวนจังหวัดชลบุรี เคยโดนหลอกในลักษณะนี้มาแล้ว 4 ครั้ง และทุกครั้งก็คว้าน้ำเหลว เพราะไม่มีเอเยนต์ค้ายาบ้าจริง แถมถูกหลอกเอาเงินค่าข่าวไปอีก จึงซ้อนแผนโดยหลอกให้นายปกรณ์เหมารถแท็กซี่จากกรุงเทพมาชลบุรี เพื่อมารับเงิน ก่อนจะที่รวบตัวไว้ได้
นายปกรณ์ รับสารภาพว่า ทำมาแล้วเกือบร้อยครั้ง โดยจะตระเวนโทรศัพท์ไปยัง สภ.ต่างๆ โดยหลอกว่าทราบแหล่งค้ายา แต่ต้องการค่าข่าว ซึ่งบาง สภ.ที่ผู้กำกับหรือสารวัตร ต้องการสร้างผลงาน ก็ยอมจ่ายเงินตั้งแต่ 3,000 บาท และครั้งที่ได้มากที่สุดเคยได้ถึง 4 หมื่นบาท
ด้าน พ.ต.ท.ไชยกฤษณ์ เปิดเผยว่า คงจะไม่มี สภ.ใดมาแจ้งความข้อหาต้มตุ๋น เพราะกลัวเสียหน้า ที่เป็นตำรวจแต่ยังถูกหลอก จึงทำได้แค่จับในข้อหาเสพยาเพราะจากการตรวจฉี่ ปรากฏว่าฉี่สีม่วงและอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับ สภ.ต่างๆ ไม่ให้โดนหลอกอีกต่อไป