ศรีสะเกษ - ผู้ชุมนุมขึ้นผามออีแดงอ่านแถลงการณ์ 2 ฉบับ ทวงคืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหาร ลั่นทำทุกวิถีทางตามกรอบ กม.ทวงคืนแผ่นดินไทยคืน ทั้งทางพฤตินัย และนิตินัย เร่งผลักดันชาวกัมพูชา ออกจากพื้นที่ด่วนที่สุด พร้อมดำเนินการผู้กระทำความผิด สมรู้ร่วมคิดในการทำให้แผ่นดินไทยถูกรุกล้ำ เสียดินแดน รวมทั้งแจ้งความเอาชาวบ้านรุมทำร้ายพร้อมกับ จนท.ตร.และขรก.บางคน ที่อยู่เบื้องหลังม็อบจัดตั้ง สั่งทำร้ายผู้ชุมนุม
ผู้ชุมนุมขึ้นผามออีแดงอ่านแถลงการณ์ 2 ฉบับ ทวงคืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหาร ลั่นทำทุกวิถีทางตามกรอบ กม.ทวงคืนแผ่นดินไทยกลับคืนมา ทั้งทางพฤตินัย และนิตินัย พร้อมดำเนินการผู้กระทำความผิด สมรู้ร่วมคิดในการทำให้แผ่นดินไทย ถูกรุกล้ำ เสียดินแดน มาดำเนินการตามกม. ขณะเดียวกันแจ้งความอาผิดชาวบ้านทำร้ายคนไทยผู้รักชาติ
วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.15 น. นายวีระ สมความคิด พร้อมตัวแทนมวลชนทวงคืนเขาพระวิหาร 30 คน เดินทางถึงด่านอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ก่อนจะเดินขบวนฝ่าด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกว่า 600 นายที่ตั้งด่านรักษาความปลอดภัยก่อนเดินทางไปขึ้นรถของทหารที่จัดเตรียมไว้เพื่อขึ้นไปอ่านคำแถลงการณ์ที่ผามออีแดง เพื่อผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร โดยมี พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 และทหารจำนวน 20 นาย เป็นผู้นำขบวนขึ้นไป พร้อมนำคณะสื่อมวลชนขึ้นไปทำข่าวในครั้งนี้ด้วย เมื่ออ่านคำแถลงการณ์เสร็จแล้ว ทหารจะให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับลงมาในทันที
นายวีระ และขบวนเครือข่ายประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร ได้อ่านแถลงการณ์ทวงคืนแผ่นดินไทย รอบปราสาทพระวิหารทั้ง 2 ฉบับ โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ คือ 1.จะดำเนินการในทุกวิถีทางตามกรอบของกฎหมาย เพื่อทวงคืนแผ่นดินไทย รอบปราสาทพระวิหารกลับคืนมา ให้กลับมาเป็นของราชอาณาจักรไทยดังเดิม ทั้งในทางพฤตินัย และนิตินัย 2.จะดำเนินการผู้กระทำความผิด ในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือสมรู้ร่วมคิดในการทำให้แผ่นดินไทยต้องถูกรุกล้ำหรือเสียดินแดน มาดำเนินโทษทางกฎหมายจนถึงที่สุด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที ขณะนี้ได้อ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้นแล้ว
หลังจากอ่านคำแถลงการณ์แล้ว นายวีระกล่าวว่า จะรอดูท่าทีรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร เพราะขณะะนี้มีการประกาศกฎอัยการศึกของทหารอยู่ ตนขอย้ำว่ากองทัพจะต้องดำเนินการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ทันที เราจะรอดูและจะมีการประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง
นายวีระยังได้ขอความเป็นธรรมต่ิอสื่อมวลทุกแขนง จากเหตุการณ์ปะทะกันกับชาวบ้านในพื้นที่ว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ อยู่บนถนนหลวงไม่ได้ไปตีกับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านที่ถูกจัดตั้งมาได้มาตีกลุ่มผู้ชุมนุมก่อนและใช้ปืนลูกซองยิง คนของเราถูกทำร้าย มีทั้งผู้หญิงและเด็ก เราจึงจำเป็นต้องป้องกันตัว ตนขอย้ำว่าถ้าไม่มีการจัดตั้งจะไม่มีการปะทะกันอย่างด็ดขาด
“เราปฎิบัติตามกฎหมายมีรถตำรวจนำมาและได้เจราจากับผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ แต่ชาวบ้านไม่ยอมเจรจา ทั้งนี้เราจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่ทำร้ายเรา เพราะมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายและมียนต์ได้รับความเสียหายหลายสิบคัน ผมขอตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ดังนั้น ผมจะแจ้งความดำเนิอนคดีตำรวจและข้าราชการบางคนที่อยู่เบื้องหลังจัดตั้งคนมาทำร้ายเรา” นายวีระกล่าว
ผู้ชุมนุมขึ้นผามออีแดงอ่านแถลงการณ์ 2 ฉบับ ทวงคืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหาร ลั่นทำทุกวิถีทางตามกรอบ กม.ทวงคืนแผ่นดินไทยกลับคืนมา ทั้งทางพฤตินัย และนิตินัย พร้อมดำเนินการผู้กระทำความผิด สมรู้ร่วมคิดในการทำให้แผ่นดินไทย ถูกรุกล้ำ เสียดินแดน มาดำเนินการตามกม. ขณะเดียวกันแจ้งความอาผิดชาวบ้านทำร้ายคนไทยผู้รักชาติ
วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.15 น. นายวีระ สมความคิด พร้อมตัวแทนมวลชนทวงคืนเขาพระวิหาร 30 คน เดินทางถึงด่านอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ก่อนจะเดินขบวนฝ่าด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกว่า 600 นายที่ตั้งด่านรักษาความปลอดภัยก่อนเดินทางไปขึ้นรถของทหารที่จัดเตรียมไว้เพื่อขึ้นไปอ่านคำแถลงการณ์ที่ผามออีแดง เพื่อผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร โดยมี พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 และทหารจำนวน 20 นาย เป็นผู้นำขบวนขึ้นไป พร้อมนำคณะสื่อมวลชนขึ้นไปทำข่าวในครั้งนี้ด้วย เมื่ออ่านคำแถลงการณ์เสร็จแล้ว ทหารจะให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับลงมาในทันที
นายวีระ และขบวนเครือข่ายประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร ได้อ่านแถลงการณ์ทวงคืนแผ่นดินไทย รอบปราสาทพระวิหารทั้ง 2 ฉบับ โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ คือ 1.จะดำเนินการในทุกวิถีทางตามกรอบของกฎหมาย เพื่อทวงคืนแผ่นดินไทย รอบปราสาทพระวิหารกลับคืนมา ให้กลับมาเป็นของราชอาณาจักรไทยดังเดิม ทั้งในทางพฤตินัย และนิตินัย 2.จะดำเนินการผู้กระทำความผิด ในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือสมรู้ร่วมคิดในการทำให้แผ่นดินไทยต้องถูกรุกล้ำหรือเสียดินแดน มาดำเนินโทษทางกฎหมายจนถึงที่สุด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที ขณะนี้ได้อ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้นแล้ว
หลังจากอ่านคำแถลงการณ์แล้ว นายวีระกล่าวว่า จะรอดูท่าทีรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร เพราะขณะะนี้มีการประกาศกฎอัยการศึกของทหารอยู่ ตนขอย้ำว่ากองทัพจะต้องดำเนินการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ทันที เราจะรอดูและจะมีการประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง
นายวีระยังได้ขอความเป็นธรรมต่ิอสื่อมวลทุกแขนง จากเหตุการณ์ปะทะกันกับชาวบ้านในพื้นที่ว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ อยู่บนถนนหลวงไม่ได้ไปตีกับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านที่ถูกจัดตั้งมาได้มาตีกลุ่มผู้ชุมนุมก่อนและใช้ปืนลูกซองยิง คนของเราถูกทำร้าย มีทั้งผู้หญิงและเด็ก เราจึงจำเป็นต้องป้องกันตัว ตนขอย้ำว่าถ้าไม่มีการจัดตั้งจะไม่มีการปะทะกันอย่างด็ดขาด
“เราปฎิบัติตามกฎหมายมีรถตำรวจนำมาและได้เจราจากับผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ แต่ชาวบ้านไม่ยอมเจรจา ทั้งนี้เราจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่ทำร้ายเรา เพราะมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายและมียนต์ได้รับความเสียหายหลายสิบคัน ผมขอตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ดังนั้น ผมจะแจ้งความดำเนิอนคดีตำรวจและข้าราชการบางคนที่อยู่เบื้องหลังจัดตั้งคนมาทำร้ายเรา” นายวีระกล่าว
