เชียงราย - มือมืดลอบเผาโรงเรียนซ้ำรอยหลังช่วงปฏิวัติ 19 กันยาฯ แถมจงใจก่อเหตุโรงเรียนในความดูแลของ ผอ.นักจัดรายการร่วมวิทยุชุมชนของ “ผ้าง พลชัย” ครูพันธมิตรฯ แห่งคลื่น 107.5 เมกะเฮิรตซ์ เผยพิรุธหน้าต่าง 2 บานไม่ได้ล็อก-ห้องต้นเพลิงไร้สายไฟเชื่อมต่อ
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า พ.ต.ต.วิชัย ไชยอิ่นคำ สารวัตรเวร สภ.เชียงแสน ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โรงเรียนบ้านดอยชะโง้ว หมู่ 7 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน เมื่อ 19 ก.ย.52 จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบชาวบ้านและครูอาจารย์รวมทั้งนักเรียนกำลังช่วยกันดับเพลิงอย่างอย่างโกลาหล โดยไฟได้ไหม้ที่ห้องเรียนชั้น ป.1 ของอาคารเรียนหลังหนึ่ง กว่าจะช่วยกันดับไฟได้ก็ทำให้ข้าวของภายในประกอบไปด้วยสื่อการเรียนการสอน โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องพิมพ์หรือพรินเตอร์จำนวน 1 เครื่อง เอกสารต่างๆ ถูกเผาไหม้ไปจนหมด เบื้องต้นรวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 60,000 บาท
จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นวันหยุดจึงไม่มีการเรียนการสอน แต่ปรากฏว่าหน้าต่างของห้องจำนวน 2 บาน ไม่ได้ล็อค รวมทั้งมีร่องรอยการถูกงัดแงะด้วย เจ้าหน้าที่จึงสันนิฐานว่า มีผู้ที่งัดแงะและลอบเข้าไปในห้องดังกล่าวมาก่อนที่จะเกิดไฟไหม้
นอกจากนี้ จากการสอบถามนางอันธิกา สุภาอิน ครูประจำชั้นเรียนดังกล่าวก็ทราบว่า ห้องดังกล่าวไม่มีสายไฟฟ้าโยงไปถึงจึงไม่น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่จะเกิดจากสาเหตุใดนั้นนางอันธิกา ไม่ทราบสาเหตุ
เจ้าหน้าที่จึงสอบถามไปยังนายกรวิทย์ ทุวคำ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดอยชะโง้ว ก็ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า โรงเรียนมีนักเรียนจำนวน 93 คน และวันเกิดเหตุเป็นวันเสาร์ จึงไม่มีนักเรียนและครูคอยดูแล แต่มีคนงานที่ไปก่อสร้างหลังโรงเรียนเห็นควันไฟคละคลุ้ง จึงเรียกชาวบ้านและครูอาจารย์ไปช่วยกันดับเพลิงดังกล่าว
สำหรับสาเหตุอาจมาจาก 3 เรื่องหลัก คือ เกิดจากการที่นายกรวิทย์ ไปจัดรายการร่วมกับวิทยชุมชนห้วยไคร้ คลื่นความถี่เอฟเอ็ม 107.5 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งมีนายผ้าง พลชัย แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย เป็นคนจัดเป็นประจำจึงทำให้บางกลุ่มที่อันธพาลไม่พอใจก่อเหตุเผาดังกล่าว
ส่วนอีก 2 เรื่องอาจเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่พอใจเนื่องจากก่อนหน้านี้นายกรวิทย์เคยได้รับแจ้งว่า มีวัยรุ่นไปก่อเหตุเสียงดังและจุดประทัดบริเวณหน้าโรงเรียน จึงได้เรียกพ่อแม่ของวัยรุ่นไปตักเตือน หรืออีกเรื่องอาจมาจากฟ้าผ่าในช่วงคืนที่ผ่านมาเพราะมีฝนตกหนัก โดยเชื้อไฟอาจค่อยๆ คุกรุ่นและโหมลุกหนักในตอนกลางวัน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปถึงสาเหตุการเผาห้องเรียนดังกล่าว จึงได้ถ่ายภาพ เก็บร่องรอยต่างๆ ในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งประสานไปยังตำรวจวิทยาการ ภ.เชียงราย ไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่งต่อไป