xs
xsm
sm
md
lg

มฟล.นำเวิร์คชอปท่องเที่ยว-ดันใช้วัดดังเป็นฐานดึงคน-สร้างคุณธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงระดมสงฆ์จากวัดชื่อดัง และชุมชนต่าง ๆ เข้าห้องทำเวิร์คชอปแผนพัฒนาบทบาททางด้านการท่องเที่ยว และการพัฒนาประเทศ โดยใช้วัดเป็นฐาน

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าเมื่อเร็วๆ นี้ รศ.ดร.จุฑา มนัสไพบูลย์ คณบดีสำนักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ได้เป็นประธานในการเปิดงานการประชุมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อบทบาทของพระสงฆ์ต่อการพัฒนาคุณธรรมแก่นักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวประเภทวัด ใน จ.เชียงราย ครั้งที่ 2 โดยมีพระสงฆ์จากวัดต่างๆ และตัวแทนจากชุมชนต่างๆ ใน จ.เชียงราย เข้าร่วมกว่า 100 คน

รศ.ดร.จุฑา ระบุว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ทาง มฟล.มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคุณธรรมโดยมีแหล่งท่องเที่ยวประเภทวัดเป็นฐาน ดังนั้นพระสงฆ์จึงมีบทบาทที่สำคัญมาก ตามการพัฒนาการท่องเที่ยวและประเทศในด้านต่างๆ

รศ.ดร.จุฑา กล่าวว่า ความคิดเห็นจากพระสงฆ์ และตัวแทนจากชุมชนต่างๆ ที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ จะได้นำมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวประเภทวัด และเป็นแนวทางในการจัดการต่างๆ ทั้งการรับนักท่องเที่ยวและบทบาทของรัฐ และชุมชนในการสนับสนุนพัฒนา สำหรับตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวในลักษณะเดียวกันในต่างประเทศ เช่น อิตาลี ได้มีการกำหนดกฎชัดเจนโดยเมื่อนักท่องเที่ยวจะเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์วิหารสำคัญบางแห่งต้องถอดรองเท้า หลายแห่งห้ามพูดคุย ห้ามถ่ายภาพ และหรือไม่ให้ยืนใกล้หรือจับผนังที่มีลวดลายเก่าแก่ ซึ่งนักท่องเที่ยวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับในโซเวียตหรือในประเทศเกาหลี
และในงานประชุมดังกล่าว ได้รับความกรุณาจากพระราชสิทธินายก เจ้าคณะ จ.เชียงราย และเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ อ.เมือง อารามหลวงซึ่งมีความสวยงามและประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับการสร้างเมืองเชียงราย จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนเป็นประจำ

ซึ่งทางพระราชสิทธินายก ให้ความคิดเห็นว่า จากประสบการณ์ในการเดินทางไปเยือนสถานที่สำคัญทั้งทางศาสนาและสถานบันอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศอิตาลี โซเวียต ฯลฯ พบว่า แต่ละประเทศต่างก็มีกติกาหรือระเบียบชัดเจนให้นักท่องเที่ยวได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการเข้าเยี่ยมชมสถานที่นั้นๆ เพื่ออนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เอาไว้

นายอุทัย มูลแก้ว เจ้าหน้าที่บริหาร ส่วนสารบรรณอำนวยการและนิติการ มฟล.กล่าวว่า ควรมีการปรับภูมิทัศน์ของวัดให้เน้นถึงความร่มรื่น เพราะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและคนไทยได้มาก โดยไม่จำเป็นต้องมีสิ่งปลูกสร้างหรูหราอลังการ และควรมีการจัดระเบียบภายในวัด ทั้งเรื่องการจัดสัดส่วนพื้นที่ เรื่องความสะอาด หรือเรื่องการเข้าเยี่ยมชมภายในวัด เช่น จัดให้มัคคุเทศก์น้อยดำเนินกิจกรรมโดยเยาวชนจากชุมชนใกล้เคียงกับวัดมาเป็นผู้ให้ข้อมูล ส่วนค่าใช้จ่ายตอบแทนนั้นยังเห็นควรให้อยู่ในรูปของการบริจาค

“หากจะพัฒนาสถานท่องเที่ยวประเภทวัด จุดขายก็เป็นเรื่องที่ต้องพูดถึง อาจเป็นสวนสมุนไพรพร้อมข้อมูลความรู้เกี่ยวข้องหรือพิพิธภัณฑ์ชุมชนก็ได้ รวมถึงการจัดเป็นลานกิจกรรม รัฐสามารถสนับสนุนงบประมาณ ส่วนเอกชนก็มีส่วนร่วมได้ อย่างบริษัททัวร์ที่นำเยี่ยมชมวัดก็ควรจะให้ข้อมูลของวัดและศาสนาให้ถูกต้อง และชุมชนมีส่วนร่วมในแง่ของการจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมและประเพณีดีงาม” นายอุทัย กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น