xs
xsm
sm
md
lg

“มทภ.2” ย้ำไม่ให้มวลชนทวงคืน “เขาวิหาร” เข้า พท.เสี่ยง-ยันดูแล ปชช.ดีที่สุด ไม่ใช้อาวุธเด็ดขาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์  หนีพาล  มทภ.2
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “แม่ทัพภาค 2” ย้ำไม่ปล่อยให้มวลชนทวงคืนแผ่นไทยเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ยันใช้หลักเจรจา-ดูแลความปลอดภัย ปชช.ให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดการปะทะ และไม่ใช้อาวุธกับผู้ชุมนุมเด็ดขาด ชี้ ฝ่ายเขมรไม่ได้เสริมกำลังเป็นเพียงการสับเปลี่ยนกำลังตามปกติ ส่วนทหารไทยไม่ต้องเพิ่มเหตุมีเพียงพอทั้งอาวุธและกำลังพลอยู่แล้ว

ช่วงบ่ายวันนี้ (18 ก.ย.) พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และ ประชาชนทั่วประเทศ ที่เดินทางไปชุมนุมแสดงพลังทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่า ล่าสุด จากรายงานทราบว่า ยังคงมีกลุ่มมวลชนทยอยเดินทางมาสมทบในพื้นที่ตัวเมืองอำเภอกันทรลักษ์ และ ในจังหวัดศรีสะเกษอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนเข้าไปถึงพื้นที่ที่มีการเผชิญหน้ากันระหว่างทหารไทยกับฝ่ายกัมพูชาก็คงจะมีปัญหา แต่ทางทหารเราคงจะสกัดกั้น ไม่ปล่อยให้ประชาชนเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยซึ่งได้ทำความเข้าใจและพูดคุยกันไปบ้างแล้ว แต่หากทางฝ่ายกัมพูชามีการยิงเข้ามา เป็นธรรมดาที่ฝ่ายไทยต้องป้องกันตัว แต่ไม่อยากให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น

“ทหารเรายืนยันว่า เราจะดูแลความปลอดภัยของประชาชนให้ดีที่สุดและไม่ให้เกิดการปะทะกันขึ้นเหมือนครั้งที่ผ่านมา และจะดูแลความปลอดภัยบริเวณปราสาทพระวิหารอย่างเต็มที่” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว

พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ภูเขา ไม่มีห้องน้ำ หรือสิ่งอำนวยความสะดวก และยังเป็นพื้นที่อันตราย ซึ่งเราก็หนักใจถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมอยากจะขึ้นไปก็ต้องขอร้องและทำความเข้าใจกันพอสมควร ตอนนี้ก็ยังไม่มีมวลชนเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว

ส่วนการชุมนุมของมวลชนจะยืดเยื้อหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ คงต้องรอพูดคุยกับแกนนำก่อน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทหารของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาเสริมกำลังพร้อมอาวุธครบมือตามแนวชายแดนนั้น พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า เป็นกำลังทหารที่เข้ามาผลัดเปลี่ยนกับชุดเดิม ซึ่งเป็นการสับเปลี่ยนกำลังทหารตามปกติ ไม่ได้เพิ่มเติมมาขนาดใหญ่แต่อย่างใด ส่วนของฝ่ายทหารไทยไม่ต้องส่งกำลังเข้าไปเสริมอีก เพราะมีเพียงพอทั้งอาวุธและกำลังทหารอยู่แล้ว

สำหรับการป้องกันประชาชนไม่ให้เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงนั้น ได้ใช้ทั้งกำลังพล และเครื่องกีดขวาง ซึ่งเป็นรั้วลวดหนามจะดูประสบการณ์จากครั้งก่อนมาปรับใช้ โดยจะใช้การเจรจาเป็นหลักไม่มีการใช้อาวุธกับผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด เพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะหรือการสูญเสียเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น