น่าน – น้ำป่าทะลักท่วมเมืองน่านซ้ำ บ้านเรือนชาวบ้านเกือบ 400 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายถ้วนหน้า สัตว์น้ำถูกกระแสน้ำพัดหายไปนับร้อยตัว
รายงานข่าวจากจังหวัดน่าน แจ้งว่า หลังฝนตกหนักติดต่อกันนาน 3 ชั่วโมง เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในลำน้ำห้วยมัด ต.อวน อ.ปัว จ.น่าน ได้ล้นทะลักหลากท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ติดริมน้ำ ที่บ้านไร่สามัคคี หมู่ 1 จำนวน 197 หลังคาเรือน และที่บ้านไร่พัฒนา หมู่ 9 จำนวน 176 หลังคาเรือน โดยกระแสน้ำป่าได้หลากสูงกว่า 70 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายข้าวของ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องมือการเกษตร รวมถึงสัตว์เลี้ยง อาทิ หมู วัว ควาย หนีน้ำไปอยู่พื้นที่สูงปลอดภัย
ชาวบ้านรายหนึ่ง เล่าว่า ฝนเริ่มตกหนักตั้งแต่เวลา 23.30 น.ของคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งช่วงเช้ามืดได้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมทั้ง 2 หมู่บ้านอย่างรวดเร็ว โดยระดับน้ำสูงถึงเอว จนไม่สามารถขนย้ายข้าวของได้ทัน เพราะไม่มีใครสามารถช่วยเหลือกันได้ เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีผู้หญิงและเด็กอยู่บ้านกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะผู้ชายเสร็จทำนาแล้วมักจะเดินทางไปขายแรงงานต่างจังหวัด
สำหรับทั้ง 2 หมู่บ้านที่อยู่ติดลำห้วยมัด ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงแห่งหนึ่ง แต่ขณะเกิดเหตุไม่มีการแจ้งเตือนจากมิสเตอร์เตือนภัยแต่อย่างใด เนื่องจากสัญญาณเตือนภัยที่ติดตั้งไว้ถูกน้ำพัดเสียหายเมื่อปีที่แล้ว และยังไม่ได้รับการติดตั้งให้ใหม่
อบต.อวนได้ทำการสำรวจเบื้องต้น พบน้ำป่าหลากได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนราษฎรจำนวนรวม 373 หลังคาเรือน เสียหายหนักจำนวนประมาณ 10 หลังคาเรือน ถูกท่อนซุงใหญ่ที่ไหลมากับน้ำกระแทกเข้าที่ตัวบ้านจนเป็นรอยร้าวแนวยาว และกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้พัดรั้วบ้านล้มลง นอกจากนี้ยังพบสัตว์ปีกอาทิ เป็ด ไก่ ถูกกระแสน้ำพัดสูญหายจำนวนกว่า 100 ตัว ระบบน้ำประปาหมู่บ้านเสียหาย และพื้นที่การเกษตร นาข้าวได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงจนแห้ง เหลือทิ้งคราบโคลน และเศษไม้ไว้ในบ้านเรือน ซึ่งชาวบ้านได้เร่งทำความสะอาด โดยมีทหารพราน 32, ตชด.325 และเจ้าหน้าที่อำเภอปัว, อบต.อวน นำรถฉีดน้ำเข้าช่วยชาวบ้านล้างทำความสะอาด และนำรถแม็คโคเข้าขุดเปิดเส้นทางน้ำเพื่อให้น้ำระบายได้ดี และนำข้าวและน้ำดื่มเข้าแจกจ่ายชาวบ้านเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น
นายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำป่าหลากขณะนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่ เนื่องจากสภาพอากาศบนท้องฟ้ายังคงปกคลุมด้วยเมฆฝน และมีทีท่าฝนตกต่อเนื่อง จึงได้ประกาศแจ้งเตือนในแต่ละพื้นที่เตรียมพร้อม หากเกิดเหตุนำท่วม ดินถล่มจะได้ช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที