xs
xsm
sm
md
lg

ชาวยางตลาดค้านนับคะแนนเลือกตั้ง อบต. เผยพิรุธกรรมการหน่วยส่อทุจริต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านอ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ลงชื่อคัดค้านผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิก อบต. หลังพบพิรุธกรรมการประจำหน่วยฯ มีพฤติกรรมส่อทุจริต เพราะปิดห้องกาเบอร์เลือกตั้ง ก่อนนำออกมาขานคะแนน

รายงานข่าวแจ้งว่า นายสมพร ประทุมวัน อดีตผู้สมัคร สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านหัวงัว หมู่ 7 ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมพวกกว่า 30 คน ได้นำเอกสาร ประกอบด้วยสำนวนร้องเรียน และรายชื่อคัดค้านผลการนับคะแนนเลือกตั้งส.อบต.บ้านหัวงัว หมู่ 7 เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา เนื่องจากพบพิรุธหลายประการที่ส่อผิดกฎหมายเลือกตั้ง

นายสมพรกล่าวว่า การเลือกตั้งวันที่ 6 ที่ผ่านมา บ้านหัวงัว ม.7 มีผู้สมัครส.อบต.จำนวน 5 คน หมายเลข 1 นายเรืองชัย ภูพันหงส์ หมายเลข 2 คือ ตน หมายเลข 3 นายอดิศักดิ์ บุญเรืองรอง (ถูกตัดสิทธิก่อนวันเลือกตั้ง) หมายเลข 4 นายไกรธน ไพรฤทธิ์ และหมายเลข 5 ศุภเกียรติ ภูธง โดย กกต.ได้กำหนดหน่วยเลือกตั้งที่ศาลาการเปรียญวัดศรีนวลหัวงัว โดยมีนางวิภาภร ผลเรือง เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง นางขันทอง ดีรักษา เป็นประธานกรรมการเลือกตั้ง

นายสมพรกล่าวอีกว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมา นายไกรธน ได้อันดับ 1 มี 244 คะแนน นายเรืองชัย ได้ที่ 2 มี 208 คะแนนส่วนตนได้ที่ 3 มี 202 คะแนน ถึงตนจะแพ้ 6 คะแนน แต่ความรู้สึกส่วนตัวยอมรับผลการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่คาใจตนและชาวบ้าน ที่สังเกตการณ์ขณะนับคะแนน คือพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส ส่อทุจริต ทำตัวไม่เป็นกลาง ของผอ.,ประธานและกรรมการประจำหน่วยฯ

โดยเฉพาะหลังปิดหีบฯและตรวจจำนวนบัตรเลือกตั้ง (ส.อบต.) มีพิรุธ นำหีบบัตรเข้าไปคัดแยกในห้อง และปิดประตู เชื่อมีการเปิดบัตรเลือกตั้งออกมาดูการกากบาทเลือกตั้ง นานเป็นชั่วโมงจึงนำบัตรเลือกตั้งออกมาอ่านคะแนน

ขณะที่ นางแตง ภูตีกา อายุ 48 ปี ราษฎรบ้านหัวงัว เลขที่ 83 หมู่ 7 กล่าวว่า ชาวบ้านเห็นการกระทำที่ผิดปกติก็สอบถาม โดยให้คำตอบว่าเป็นกฎหมายใหม่ ให้ทำอย่างนั้น ถึงตอนขานคะแนนและพิจารณาบัตรดี-บัตรเสีย ก็เลือกปฏิบัติ ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงติดใจในพฤติกรรมของผู้อำนวยการและพวก ที่ทำหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง

“ผมกับพวก จึงได้เข้าร้องเรียนต่อ กกต.จังหวัด แต่ได้รับคำตอบว่าไม่มีการบันทึกเป็นหลักฐาน จึงไม่อาจชี้มูลความผิดของ ผอ., ประธาน และคณะกรรมการได้ มิหนำซ้ำเมื่อกรรมการเหล่านั้น ที่ส่วนมากรับราชการครู รู้ว่าชาวบ้านมาร้องกกต. ก็พูดจาเยาะเย้ย ถากถางต่างนานา ไม่มีจรรยาบรรณของการเป็นข้าราชการ จึงได้ร่วมลงชื่อและร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ เพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากชาวบ้านไม่อาจยอมรับกับผลการเลือกตั้ง ที่ส่อทุจริตตั้งแต่ก่อนการนับคะแนนไม่โปร่งใส” นางแตงกล่าว

นายส่ง แสงโคตร พนักงานสืบสวนสอบสวน สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ถึงวันนี้มีอดีตผู้สมัคร นำหนังสือเข้าร้องเรียนประมาณ10 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นในประเด็นของการคัดค้านผลการนับคะแนน โดยอ้างว่าคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง รวมทั้งกรรมการนับคะแนน มีพฤติกรรมส่อทุจริต วางตนไม่เป็นกลาง เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายตรงข้าม จึงมาขอคัดค้านและขอให้มีการเลือกตั้งใหม่

“ส่วนใหญ่จะเป็นในกลุ่มผู้สมัครตำแหน่งนายก ร้องเรียนการทุจริตของฝ่ายตรงข้ามหลายประการ ทั้งสัญญาว่าจะให้ การจ่ายเงินซื้อเสียง มีการถือข้างเล่นได้เสีย การพิจารณาบัตรดี-บัตรเสียแบบ 2 มาตรฐาน กรรมการประจำหน่วยฯและกรรมการนับคะแนนขายตัว ระบุมีพฤติกรรมส่อเลือกข้างและชี้นำชาวบ้าน ทำตัวเป็นหัวคะแนน พูดจาหว่านล้อมชักจูง ถึงตอนปิดหีบและตรวจจำนวนบัตรเลือกตั้งส่อทุจริต อ้างว่านำหีบบัตรเข้าไปคัดแยกในห้องลับ มีการเปิดดูบัตรเลือกตั้งก่อนนำออกมานับคะแนน เป็นต้น”

ดร.ประสิทธ์ คชโคตร ประธานกกต.จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ก่อนเลือกตั้ง กกต.ได้จัดเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครฯ ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ผู้สมัครและประชาชน ทั้งในส่วนของกฎระเบียบ ข้อปฏิบัติ เป็นที่เข้าใจดีแล้ว ในส่วนผู้อำนวยการฯ ประธานฯ และคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง รวมทั้งกรรมการนับคะแนน ก็คัดสรรจากบุคลากรที่ส่วนมากเป็นข้าราชการ ก็ย่อมจะเข้าใจในบทบาทหน้าที่ หรือในขณะดำเนินการทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มเปิดหีบเลือกตั้ง กระทั่งถึงตอนนับคะแนน ก็จะมีการบันทึกเป็นหลักฐานด้วยทุกครั้ง

ในกรณีที่มีการร้องเรียน เพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการตามข้อเรียกร้องนั้น ขอชี้แจงว่า เอกสาร หลักฐาน พยานบุคคลหรือพยานแวดล้อมอื่นๆ ก็ดี หากมีการทักท้วงและในขณะนั้น เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยฯได้ทำการบันทึกด้วย จะเป็นหลักฐานประกอบชิ้นสำคัญ ให้การพิจารณามีน้ำหนักมากขึ้น แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น ปรากฏว่าหลายสำนวนที่ร้องเรียนเข้ามา ไม่มีการบันทึกแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น