กาฬสินธุ์- สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เผยอัตราเสี่ยงโรคไข้ฉี่หนูกาฬสินธุ์ป่วยและเสียชีวิตมากที่สุดในภาคอีสาน โดยเฉพาะเกษตรกรจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งในขณะนี้พบผู้ป่วยแล้ว 154 ราย เสียชีวิตแล้ว 7 คน
นพ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า โรคไข้ฉี่หนู หรือ โรคเลปโตสไปโรซีส ซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นที่พบในภาคอีสาน กำลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักและเสี่ยงอย่างยิ่งในกลุ่มเกษตรกร เพราะในขณะนี้ยอดผู้ป่วยสะสมทั้ง 18 อำเภอ พบผู้ป่วยแล้ว 154 ราย มากที่สุดจะอยู่ในเขตอำเภอเมือง อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ทำกสิกรรม
จากการสืบสวนโรค พบว่า เกษตรกรขาดความระมัดระวังในการป้องกัน โดยหลักการสวมรองเท้าบู๊ท และให้อาบน้ำทันทีภายหลังจากการทำนา อีกทั้งหากพบว่าตัวเองมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อาเจียน มีไข้สูงก็ให้รีบพบแพทย์ แต่ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตก็เกิดปัญหาการนิ่งนอนใจ จนทำให้เชื้อโรคไข้ฉี่หนูลุกลามไปสมองและไปทำลายอวัยวะในร่างกาย
สำหรับการป้องกัน เกษตรกรจึงควรหลีกเลี่ยงที่จะเหยียบย่ำลงน้ำโดยไม่มีรองเท้าป้องกัน กับการดูแลสุขภาพภายหลังจากมีอาการเจ็บป่วยก็ให้พบแพทย์ทันที ซึ่งในขณะนี้ได้กำชับให้อสม.ทุกหมู่บ้าน ได้ทำการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างเร่งด่วนแล้ว
นพ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า โรคไข้ฉี่หนู หรือ โรคเลปโตสไปโรซีส ซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นที่พบในภาคอีสาน กำลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักและเสี่ยงอย่างยิ่งในกลุ่มเกษตรกร เพราะในขณะนี้ยอดผู้ป่วยสะสมทั้ง 18 อำเภอ พบผู้ป่วยแล้ว 154 ราย มากที่สุดจะอยู่ในเขตอำเภอเมือง อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ทำกสิกรรม
จากการสืบสวนโรค พบว่า เกษตรกรขาดความระมัดระวังในการป้องกัน โดยหลักการสวมรองเท้าบู๊ท และให้อาบน้ำทันทีภายหลังจากการทำนา อีกทั้งหากพบว่าตัวเองมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อาเจียน มีไข้สูงก็ให้รีบพบแพทย์ แต่ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตก็เกิดปัญหาการนิ่งนอนใจ จนทำให้เชื้อโรคไข้ฉี่หนูลุกลามไปสมองและไปทำลายอวัยวะในร่างกาย
สำหรับการป้องกัน เกษตรกรจึงควรหลีกเลี่ยงที่จะเหยียบย่ำลงน้ำโดยไม่มีรองเท้าป้องกัน กับการดูแลสุขภาพภายหลังจากมีอาการเจ็บป่วยก็ให้พบแพทย์ทันที ซึ่งในขณะนี้ได้กำชับให้อสม.ทุกหมู่บ้าน ได้ทำการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างเร่งด่วนแล้ว