ฉะเชิงเทรา - ทัวร์โดยสารอุบลราชธานี-พัทยา พุ่งโหม่งเสยท้ายรถบรรทุกสิบล้อขนข้าวสาร ทำเสียชีวิตคาที่ 2 ราย บาดเจ็บนับสิบ ขณะผู้โดยสารเผยถูกบีบอัดยัดเหยียดพากันขึ้นรถมาในคันเดียวเฉียดร้อยชีวิต หลังผู้คนพากันเดินทางกลับจากภูมิลำเนาไปเลือกตั้ง อบต.ท้องถิ่น ด้วยความแออัด
วันนี้ (7 ก.ย.) เวลา 04.30 น. พ.ต.ท.สุเทพ ศรีเกษม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถทัวร์โดยสารสายอุบลราชธานี-นครราชสีมา-พัทยา พุ่งชนกับท้ายรถบรรทุกสิบล้อที่บริเวณยูเทิร์นกลับรถเสม็ดเหนือ ก่อนถึงสะพานข้ามคลองวังซุงประมาณ 700 เมตร บนถนนสาย 304 ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าตัว จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณหลัก กม.ที่ 13 พื้นที่ ม.5 ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ พบรถทัวร์โดยสารคันสีฟ้าขาว เลขทะเบียน 10-6199 นครราชสีมา ของบริษัท ศรีมงคล ขนส่ง จำกัด เลขข้างรถ 589-44 ป.1 มีนายอุดม กล่อมเที่ยง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.4 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นคนขับ พุ่งตกลงไปในคูร่องกลางถนน สภาพด้านหน้าฝั่งซ้ายพังเสียหายยับเยิน ห่างออกไปตามเส้นทางประมาณ 250 เมตร พบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ บรรทุกข้าวสาร ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 80-5420 บุรีรัมย์ จอดอยู่ริมไหล่ทาง สภาพด้านท้ายรถด้านขวาถูกเฉี่ยวชนเสียหายเพียงเล็กน้อย
บริเวณที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนรถทัวร์ และกระตกแตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 13 ราย ถูกหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราช่วยเหลือ ลำเรียงนำส่งไปยัง รพ.เมืองฉะเชิงเทรา ที่บริเวณใต้ประตูหน้ารถด้านซ้าย พบศพผู้เสียชีวิตติดอยู่คาซากรถ 2 ราย เป็นผู้โดยสาร 1 ราย ทราบชื่อ คือ น.ส.วิยะดา แซมทอง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.2 ต.หนองเทพ กิ่ง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ และพนักงานประจำรถ (เด็กรถ) 1 ราย ยังไม่ทราบชื่อ
จากการสอบสวน นายองอาจ มารศรี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 ม.3 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ชัยพจน์ จ.บุรีรัมย์ คนขับรถบรรทุก 10 ล้อ กล่าวว่า ขณะมาถึงยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดกลับรถ ได้มีรถในยูเทิร์นจำนวน 2 คัน ขับพุ่งออกมาตัดหน้า ตนจึงได้เหยียบเบรก เพื่อชะลอความเร็วของรถลง ทันใดนั้นได้มีรถทัวร์ซึ่งขับตามหลังมา พุ่งเข้าชนที่ด้านท้ายรถของตนอย่างแรง จนทำให้รถทัวร์เสียหลักพุ่งตกลงไปในร่องกลางถนนดังกล่าว
ขณะที่ นางคำปน บุญยัง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 ม.1 ต.หนองแวง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีษะเกษ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังหลับมาด้วยความเหนื่อยล้า หลังจากต้องนั่งรถทัวร์ในที่นั่งเสริมพิเศษ บริเวณใต้ท้องรถ (ที่เก็บสัมภาระ และกระเป๋าผู้โดยสาร) มาด้วยความแออัดอยู่ใต้ท้องรถ นั่งมารวมกันกว่า 20 คน นานนับ 10 ชม. จากต้นทาง หลังจากได้เดินทางกลับไปเลือกตั้งท้องถิ่น (สมาชิก และ นายก อบต.) ยังภูมิลำเนา
ก่อนที่จะมาขึ้นรถทัวร์คันดังกล่าวนี้ เมื่อเวลา 17.00 น.ของเมื่อวาน ซึ่งเป็นเที่ยวสุดท้ายมีผู้คนเดินทางกลับมาเป็นจำนวนมาก ด้วยความแออัด ทีทั้งบนรถด้านบน และในช่องเก็บของด้านล่างใต้ท้องรถ ถูกใช้เป็นที่นั่งโดยสาร รวมทั้งคันเกือบ 100 คน ถ้าหากไม่ขึ้นรถกลับมาในคันนี้ ก็จะหารถเดินทางกลับมาไม่ได้ในวันนั้น เนื่องจากจะต้องรีบเดินทางกลับมาทำงานที่พัทยา จ.ชลบุรี
ด้าน นางแสงเดือน พลอาจ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.9 ต.เสียว กิ่ง อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังเดินทางกลับจากไปเลือกตั้ง อบต. จึงได้รีบเดินทางกลับมา เพื่อจะไปช่วยลูกสาวเลี้ยงหลาน ในย่านอุตสาหกรรมของเครือสหพัฒน์ โดยจะไปลงรถที่อ่าวอุดม จ.ชลบุรี จึงต้องทนนั่งมาในรถคันนี้ด้วยความแออัดที่ใต้ท้องรถ ในราคาตั๋ว เท่ากันทั้งคัน คือ 480 บาท เพราะหากไม่เดินทางกลับมาในรถเที่ยวนี้ ก็จะไม่มีรถกลับมาทันเลี้ยงหลาน เพราะจะมาถึงปลายทางในเวลารุ่งเช้าพอดี
