ศูนย์ข่าวศรีราชา -ระวัง! มิจฉาชีพอ้างเป็นผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการ” ไถเงินค่าข่าวที่ได้รับการตีพิมพ์ อ้างนำไปช่วยเหลือทหารในพื้นที่ 3 จว.ใต้ หากมีผู้พบเห็นการกระทำดังกล่าวแจ้งด่วนที่ศูนย์ข่าว ASTVผู้จัดการ ศรีราชา
ศูนย์ข่าวศรีราชา ASTVผู้จัดการ ขอแจ้งเตือนมายังผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เฝ้าระหว่างกลุ่มมิจฉาชีพสิ้นหนทางทำกิน แอบอ้างเป็นนักข่าวจากศูนย์ข่าวศรีราชา รีดไถเงินค่าข่าว โดยใช้หญิงสาวชื่ออ้อย ตระเวนโทรศัพท์ขอรับบริจาคข้าวสารมูลค่า 1,500 บาท เพื่อช่วยเหลือทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นค่าตอบแทนค่าข่าวสารที่ถูกนำเสนอในหนังสือพิมพ์ ด้วยการใช้วิธีโอนเงินผ่านบัญชี
ล่าสุด เจ้าของศูนย์จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่สุดในอำเภอศรีราชา ที่เพิ่งเปิดให้บริการโชว์รูมแห่งใหม่มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ได้ถูกบุคคลดังกล่าวแอบอ้างเป็นนักข่าวจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก เพื่อขอรับเงินบริจาคจำนวน 1,500 บาท เป็นค่าข้าวสารสำหรับนำไปช่วยเหลือทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในแต่ละวันหญิงสาวที่แอบอ้าง จะใช้โทรศัพท์หลายหมายเลขติดต่อไปยังผู้ประกอบการรายนี้ เพื่อแจ้งเตือนให้รีบโอนเงิน เป็นค่าตอบแทนสำหรับการนำข่าวตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ “ASTV ผู้จัดการ” โดยให้โอนเงินผ่านบัญชีต่างๆ ที่มีชื่อผู้รับไม่ซ้ำกัน
ขณะที่กลุ่มโรงแรมในเครือเกษมกิจก็เคยได้รับการติดต่อจากหญิงสาวชื่ออ้อย เพื่อขอรับเงินบริจาคในลักษณะดังกล่าว แลกกับการนำข่าวที่สัมภาษณ์ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ แต่แหล่งข่าวทั้ง 2 รายรู้ทัน พยายามขอรายละเอียดเพื่อสืบหาตัวมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ทำให้มิจฉาชีพเกิดความไม่พอใจและยกเลิกการติดต่อไป
เช่นเดียวกับในช่วงหลายปีก่อน เจ้าของเมืองจำลอง พัทยา ก็เคยตกเป็นเหยือการแอบอ้างของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ และได้เคยประสานงานกับศูนย์ข่าวฯ เพื่อวางแผนจับกุม แต่มิจฉาชีพไหวตัวทัน จึงยกเลิกนัดที่จะเข้ารับเงินค่าตอบแทนค่าข่าวที่ถูกนำตีพิมพ์เช่นกัน จึงฝากเตือนมายังผู้ประกอบการรายอื่นๆ หากสงสัยว่าจะถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกลวง สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดโดยตรงได้ที่ศูนย์ข่าวภาคตะวันออก 0-3832-7462-3 หรือหากมีเบาะแสมิจฉาชีพสามารถแจ้งข้อมูลโดยตรงได้ที่ศูนย์ข่าวฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ศูนย์ข่าวศรีราชา ASTVผู้จัดการ ขอแจ้งเตือนมายังผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เฝ้าระหว่างกลุ่มมิจฉาชีพสิ้นหนทางทำกิน แอบอ้างเป็นนักข่าวจากศูนย์ข่าวศรีราชา รีดไถเงินค่าข่าว โดยใช้หญิงสาวชื่ออ้อย ตระเวนโทรศัพท์ขอรับบริจาคข้าวสารมูลค่า 1,500 บาท เพื่อช่วยเหลือทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นค่าตอบแทนค่าข่าวสารที่ถูกนำเสนอในหนังสือพิมพ์ ด้วยการใช้วิธีโอนเงินผ่านบัญชี
ล่าสุด เจ้าของศูนย์จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่สุดในอำเภอศรีราชา ที่เพิ่งเปิดให้บริการโชว์รูมแห่งใหม่มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ได้ถูกบุคคลดังกล่าวแอบอ้างเป็นนักข่าวจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก เพื่อขอรับเงินบริจาคจำนวน 1,500 บาท เป็นค่าข้าวสารสำหรับนำไปช่วยเหลือทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในแต่ละวันหญิงสาวที่แอบอ้าง จะใช้โทรศัพท์หลายหมายเลขติดต่อไปยังผู้ประกอบการรายนี้ เพื่อแจ้งเตือนให้รีบโอนเงิน เป็นค่าตอบแทนสำหรับการนำข่าวตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ “ASTV ผู้จัดการ” โดยให้โอนเงินผ่านบัญชีต่างๆ ที่มีชื่อผู้รับไม่ซ้ำกัน
ขณะที่กลุ่มโรงแรมในเครือเกษมกิจก็เคยได้รับการติดต่อจากหญิงสาวชื่ออ้อย เพื่อขอรับเงินบริจาคในลักษณะดังกล่าว แลกกับการนำข่าวที่สัมภาษณ์ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ แต่แหล่งข่าวทั้ง 2 รายรู้ทัน พยายามขอรายละเอียดเพื่อสืบหาตัวมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ทำให้มิจฉาชีพเกิดความไม่พอใจและยกเลิกการติดต่อไป
เช่นเดียวกับในช่วงหลายปีก่อน เจ้าของเมืองจำลอง พัทยา ก็เคยตกเป็นเหยือการแอบอ้างของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ และได้เคยประสานงานกับศูนย์ข่าวฯ เพื่อวางแผนจับกุม แต่มิจฉาชีพไหวตัวทัน จึงยกเลิกนัดที่จะเข้ารับเงินค่าตอบแทนค่าข่าวที่ถูกนำตีพิมพ์เช่นกัน จึงฝากเตือนมายังผู้ประกอบการรายอื่นๆ หากสงสัยว่าจะถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกลวง สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดโดยตรงได้ที่ศูนย์ข่าวภาคตะวันออก 0-3832-7462-3 หรือหากมีเบาะแสมิจฉาชีพสามารถแจ้งข้อมูลโดยตรงได้ที่ศูนย์ข่าวฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
