สระแก้ว- จังหวัดสระแก้ว จัดโครงการประกันราคาสินค้าด้านการเกษตร เน้น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 52/53
วันนี้ (1 ก.ย.) ณ ห้องประชุมสระแก้ว ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นายสมชาย อัชฌากุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ร่วมประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร เนื่องจากผลผลิตของสินค้าเกษตรกรตกต่ำ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นางสาวจันทร์เพ็ญ สอนสมสุข พาณิชย์จังหวัด และภาคเอกชน
โดยเน้นสินค้าด้านการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด และข้าว เพื่อสนอง มติ ครม .เรื่องการรับประกันสินค้าเกษตร และนโยบายห้ามนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยชะลอปริมาณผลผลิตที่จะเข้าสู่ตลาด ทำให้ราคาผลผลิตของเกษตรกรไทยอยู่ในระดับที่น่าพอใจของทุกฝ่าย
ปัญหาที่ผ่านมา สืบเนื่องจากภาคเอกชนของไทยด้านจังหวัดสระแก้ว ได้ยื่นหนังสือขอความกรุณาจากจังหวัดสระแก้ว ว่าได้รับผลกระทบจากมติดังกล่าว เนื่องจากผู้ประกอบการค้าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดสระแก้ว หลายรายเข้าไปลงทุนขยายพื้นที่เพาะปลูกพืชผลการเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสัมปหลัง ในประเทศกัมพูชา ตามข้อตกลงเรื่องการนำเข้าและส่งออกสินค้าการเกษตรหรือคอนแท็คฟาร์มมิ่ง ที่ไทยและกัมพูชา ได้เคยทำข้อตกลงกันไว้
นายศานิตย์กล่าวว่า ทางคณะรัฐมนตรี มีมติในการประชุมครั้งที่ผ่านมา เห็นชอบให้แทรกแซงตลาดมันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยให้รับจำนำมันสำปะหลัง กิโลกรัมละ 1.80 บาท จำนวน 5 ล้านตัน วงเงิน 1,456 ล้านบาท ,ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้รับจำนำกิโลกรัมละ 8.50 บาท ที่ความชื้นไม่เกิน 14.5% จำนวน 500,000 ตัน วงเงิน 666 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เริ่มตั่งแต่วันที่ 1 พ.ย.51 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ออกประกาศห้ามนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. จนสิ้นสุดฤดูในประเทศเดือนธันวาคม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศก่อน ซึ่งจะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบอย่างกว้างขวาง ก่อนผลผลิตออกสู่ตลาด
นายศานิตย์กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันข้าวโพดรุ่นแรกยังไม่มีปัญหา เนื่องจากผลผลิตเหลือน้อย แต่ข้าวโพดรุ่น 2 อาจจะมีปัญหาจากผลผลิตของ 2 ประเทศ เนื่องจากจะออกมาพร้อมกัน คงต้องหามาตรการดูแลเพื่อไม่ให้เกษตรกรไทยเดือดร้อน
โดยเฉพาะมันสัมปะหลังราคาเกษตรกรพอรับได้ ส่วนเรื่องข้าวเปลือกปีที่ผ่านมาราคาดีไม่มีการจำนำ แต่ปีนี้ราคาไม่คอยดี เรื่องการจำนำพืชผลการเกษตร ได้ให้พาณิชย์จังหวัด, ธ.ก.ส., อคส., เกษตรกรจังหวัด ช่วยเร่งรัด เรื่องภาคเอกชนที่จะร่วมโครงการ รวมทั้งการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและพื้นที่เพาะปลูก เพื่อไม่เกิดปัญหาต่างตามมาภายหลัง
