หนองคาย - ชาวอำเภอท่าบ่อ ร้องผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้พิจารณายับยั้งการขอกู้เงิน 100 ล้านบาทของเทศบาลเมืองท่าบ่อ ระบุเป็นโครงการซ้ำซ้อนกับแผนพัฒนา 3 ปี ขณะที่ผู้ว่าฯ ชี้แจง เทศบาลยังไม่ได้เสนอเรื่องถึงจังหวัด แค่เสนอหลักการกู้เงินในสภา
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ( 31 ส.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดหนองคาย ได้มีชาวบ้านจากอำเภอท่าบ่อ ประมาณ 20 คน นำโดยร้อยตรีกมล ชัยแสนสุข อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1 หมู่ 4 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เข้ายื่นหนังสือต่อ นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ขอให้พิจารณาระงับการขอกู้เงินของเทศบาลเมืองท่าบ่อ ซึ่งชาวบ้านทราบว่านายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ ได้นำเสนอเรื่องกู้เงินผ่านการพิจารณาของสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยระบุว่า เทศบาลเมืองท่าบ่อจะขออนุมัติสภากู้เงินจำนวน 100 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงโครงการต่างๆ 7 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างรางระบายน้ำ ค.ส.ล, ก่อสร้างคลองระบายน้ำ ค.ส.ล, ก่อสร้างโรงฆ่าสัตว์แห่งใหม่พร้อมถนนทางเข้า เป็นต้น โดยไม่มีการทำประชาพิจารณ์กู้ยืมเงินกับประชาชนก่อน และเห็นว่าเป็นโครงการซ้ำซ้อนกับที่ระบุไว้ในแผนพัฒนา 3 ปีของเทศบาลเมืองท่าบ่อ จึงไม่ต้องการให้เทศบาลกู้เงินอีก เพราะจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนในภายหลัง และอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาระงับโครงการกู้เงินดังกล่าว
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การประชุมสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมานั้นเป็นการประชุมร่างเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 ในรายงานการประชุมพบว่าผู้บริหารเทศบาลได้เสนอหลักการขอกู้เงินจำนวน 100 ล้านบาทเพิ่มเติมด้วย ซึ่งสภาก็รับหลักการไว้ และได้ส่งมาให้จังหวัดพิจารณา
โดยเจ้าหน้าที่จังหวัดได้ตรวจสอบดูแล้วพบว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง ส่วนการขอกู้เงินนั้นไม่มีรายละเอียด เชื่อว่าจะเป็นเพียงแค่การเสนอในหลักการต่อที่ประชุมเท่านั้น
แต่หากผู้บริหารเทศบาลจะเสนอกู้เงินจริงจะต้องมีรายละเอียดโครงการและงบประมาณที่จะใช้ที่ชัดเจนเสนอต่อสภาเมื่อผ่านสภาจึงส่งมาที่จังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้แต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองของจังหวัดไว้แล้ว มีคณะทำงานหลายฝ่ายพิจารณาอย่างละเอียด จะไม่มีการอนุมัติให้ท้องถิ่นกู้เงินอย่างไม่ถูกต้องเด็ดขาด
หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดได้ชี้แจงและรับหนังสือคัดค้านของชาวบ้านแล้ว กลุ่มชาวบ้านก็เข้าใจการดำเนินงานและสบายใจขึ้น จึงได้แยกย้ายกันกลับ