นครพนม- แม่ค้าตลาดสดตำบลปลาปาก บุกร้องผู้ว่าฯ นครพนม วอนเร่งแก้ไขข้อพิพาทย้ายตลาด แฉ เทศบาลบีบบังคับ ตัดไฟ ตีเส้นขาวแดงห้ามจอดรถ เตรียมเข้ารื้อถอน ทั้งที่ชาวบ้านยื่นร้องต่อศาลปกครองไว้แล้ว ด้านรองผู้ว่าฯ สั่งนายอำเภอเข้าดูแล เตือนเทศบาลฯ ต้องรอศาลปกครองก่อน
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม มีแกนนำกลุ่มแม่ค้าตลาดสดเทศบาลตำบลปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม กว่า 50 คน นำโดย นายปียา ผาลุธรรม อายุ 42 ปี และ นายขวัญชาย ปราณะ อายุ 62 ปี แกนนำ หอบเอกสารหลักฐาน เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผวจ.นครพนม แต่ติดราชการ จึงมอบหมายให้ นายนพวัชร สิงห์ศักดา รอง ผวจ.นครพนม รับเรื่องแทน
แกนนำแม่ค้าได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้ทางจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหา หลังจากแม่ค้าได้รับความเดือดร้อน กรณีเทศบาลตำบลปลาปาก จะเข้าดำเนินการรื้อถอนตลาดสดหลังเก่า ในพื้นที่ราชพัสดุ เพื่อปรับย้ายให้ไปขายที่ตลาดสดแห่งใหม่ แต่ชาวบ้านไม่ยอม เพราะตลาดแห่งใหม่อยู่ห่างเส้นทางสายหลัก ทำให้ขายของไม่ได้ จนเกิดข้อพิพาท จนทางกลุ่มแม่ค้าได้ยื่นต่อศาลปกครอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 ศาลจึงมีคำสั่งให้ชะลอการรื้อถอนไว้ก่อน และกำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาไต่สวนคดี แต่ทางเทศบาลใช้วิธีบีบบังคับ เข้าไปตัดน้ำ ตัดไฟ และตีเส้นจราจรขาวแดงห้ามจอดบริเวณหน้าตลาด ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ขายของยาก จึงเข้ารวมตัวกันมาร้องเรียนให้ทางจังหวัดเข้าไปดูแลแก้ไข
นายปียา ผาลุธรรม อายุ 42 ปี แกนนำแม่ค้า กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้มายื่นเอกสารขอความเป็นธรรมต่อพ่อเมือง ที่มีอำนาจไปดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากกรณีเทศบาลตำบลปลาปาก พยายามบังคับไล่ ให้แม่ค้าปรับย้ายจากตลาดเก่า ไปตลาดใหม่ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง หลังจากเทศบาลจะเข้ารื้อถอน ซึ่งตนถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ชาวบ้านขายของหาเช้ากินค่ำ ต้องมาเจอปัญหาหนักซ้ำเข้าไปอีก โดยการกระทำของเทศบาลถือเป็นการบีบบังคับ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง ทำการตัดน้ำ ตัดไฟ ตีเส้นขาวแดงบริเวณที่จอดรถหน้าตลาด ถือว่าไม่ถูกต้อง ไม่รู้จะพึ่งใคร จึงต้องการให้จังหวัดไปแก้ไขปัญหา หากปล่อยไว้จะเกิดความแตกแยกในสังคม
ทางด้าน นายนพวัชร สิงห์ศักดา รอง ผวจ.นครพนม กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านแม่ค้าตลาดสดเทศบาลตำบลปลาปาก มาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีข้อพิพาทเลือกย้ายตลาดของเทศบาลตำบลปลาปาก โดยเบื้องต้นจะได้สั่งการให้นายอำเภอเข้าไปดูแล ตรวจสอบ หากพบว่าเทศบาลกระทำการไม่ถูกต้อง จะมีคำสั่งแจ้งให้ระงับ เพราะอยู่ในช่วงรอการพิจารณาของศาลปกครอง แต่หากเทศบาลกระทำการละเมิดต่อคำสั่งศาลที่ให้ชะลอการรื้อถอน ทางชาวบ้านก็มีสิทธิ์เข้ายื่นร้องต่อศาลปกครองได้ อย่างไรก็ตาม จะเร่งให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไขโดยเร็ว
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม มีแกนนำกลุ่มแม่ค้าตลาดสดเทศบาลตำบลปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม กว่า 50 คน นำโดย นายปียา ผาลุธรรม อายุ 42 ปี และ นายขวัญชาย ปราณะ อายุ 62 ปี แกนนำ หอบเอกสารหลักฐาน เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผวจ.นครพนม แต่ติดราชการ จึงมอบหมายให้ นายนพวัชร สิงห์ศักดา รอง ผวจ.นครพนม รับเรื่องแทน
แกนนำแม่ค้าได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้ทางจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหา หลังจากแม่ค้าได้รับความเดือดร้อน กรณีเทศบาลตำบลปลาปาก จะเข้าดำเนินการรื้อถอนตลาดสดหลังเก่า ในพื้นที่ราชพัสดุ เพื่อปรับย้ายให้ไปขายที่ตลาดสดแห่งใหม่ แต่ชาวบ้านไม่ยอม เพราะตลาดแห่งใหม่อยู่ห่างเส้นทางสายหลัก ทำให้ขายของไม่ได้ จนเกิดข้อพิพาท จนทางกลุ่มแม่ค้าได้ยื่นต่อศาลปกครอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 ศาลจึงมีคำสั่งให้ชะลอการรื้อถอนไว้ก่อน และกำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาไต่สวนคดี แต่ทางเทศบาลใช้วิธีบีบบังคับ เข้าไปตัดน้ำ ตัดไฟ และตีเส้นจราจรขาวแดงห้ามจอดบริเวณหน้าตลาด ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ขายของยาก จึงเข้ารวมตัวกันมาร้องเรียนให้ทางจังหวัดเข้าไปดูแลแก้ไข
นายปียา ผาลุธรรม อายุ 42 ปี แกนนำแม่ค้า กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้มายื่นเอกสารขอความเป็นธรรมต่อพ่อเมือง ที่มีอำนาจไปดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากกรณีเทศบาลตำบลปลาปาก พยายามบังคับไล่ ให้แม่ค้าปรับย้ายจากตลาดเก่า ไปตลาดใหม่ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง หลังจากเทศบาลจะเข้ารื้อถอน ซึ่งตนถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ชาวบ้านขายของหาเช้ากินค่ำ ต้องมาเจอปัญหาหนักซ้ำเข้าไปอีก โดยการกระทำของเทศบาลถือเป็นการบีบบังคับ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง ทำการตัดน้ำ ตัดไฟ ตีเส้นขาวแดงบริเวณที่จอดรถหน้าตลาด ถือว่าไม่ถูกต้อง ไม่รู้จะพึ่งใคร จึงต้องการให้จังหวัดไปแก้ไขปัญหา หากปล่อยไว้จะเกิดความแตกแยกในสังคม
ทางด้าน นายนพวัชร สิงห์ศักดา รอง ผวจ.นครพนม กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านแม่ค้าตลาดสดเทศบาลตำบลปลาปาก มาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีข้อพิพาทเลือกย้ายตลาดของเทศบาลตำบลปลาปาก โดยเบื้องต้นจะได้สั่งการให้นายอำเภอเข้าไปดูแล ตรวจสอบ หากพบว่าเทศบาลกระทำการไม่ถูกต้อง จะมีคำสั่งแจ้งให้ระงับ เพราะอยู่ในช่วงรอการพิจารณาของศาลปกครอง แต่หากเทศบาลกระทำการละเมิดต่อคำสั่งศาลที่ให้ชะลอการรื้อถอน ทางชาวบ้านก็มีสิทธิ์เข้ายื่นร้องต่อศาลปกครองได้ อย่างไรก็ตาม จะเร่งให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไขโดยเร็ว