ชัยภูมิ - ตร.ชุดเฉพาะกิจชัยภูมิ บุกรวบแก๊งนายทุนใหญ่เหิมรุกป่าต้นน้ำชี พื้นที่ อ.หนองบัวแดง กว่า 1,000 ไร่ ยึดรถขนไม้ของกลางคาบ้านพักเพียบ แถมเบ่งแหลกอ้างเคลียร์ผู้การฯ นายตำรวจใหญ่-ป่าไม้หมดแล้ว แฉรุกป่าขายชาวบ้านไร่ละ 5,000-6,000 บาทเข้าปลูกยางพารา ด้านผู้ว่าฯ-ผู้การตร.ชัยภูมิ เต้นสั่งฟันไม่เลี้ยงเตรียมขยายผลรวบยกแก๊ง ขณะอธิบดีกรมป่าไม้ ลั่น กก.สอบ จนท.รับผิดชอบในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ชัยภูมิ และคณะ เปิดแถลงข่าว หลังสนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย นำโดย พ.ต.ท.สรวิศ มาอินทร์ หัวหน้าชุดปรามปราบตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เข้ากวาดล้างขบวนการตัดไม้บุกรุกป่าเตรียมการสงวน แปลง 10 หมายเลข 1 พื้นที่อนุรักษ์โซนเอ ป่าต้นน้ำชี (ซี) บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ บริเวณบ้านซับเจริญ หมู่ 3 ด้านทิศตะวันตก รอยต่อ ตำบลวังชมพู และตำบลนางแดด อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ
หลังได้สืบทราบว่า มีการบุกรุกแผ้วถางป่าสงวนเป็นบริเวณกว้างเพื่อจะปลูกยางพารา โดยใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ จึงวางแผนจู่โจมจับกุม ขณะเข้าจับกุมนั้นได้พบ นายศักดิ์ชัย ดวงจันทร์นี อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 107 หมู่ 6 ต.วังชุมพู อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ กำลังขุดตักหน้าดินที่เกิดเหตุ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม โดยนายศักดิ์ชัยรับว่าได้รับว่าจ้างมาจากนางแจ่ม เค้ายา ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินให้เข้ามาขุดตักหน้าดินในพื้นที่
นอกจากนี้ยังได้จับกุม นางหล่อน เลี้ยงสัตว์ ชาวบ้านโนนสวาท อายุ 58 ปี บ้านโนนกะบาก ต.นางแดด อ.หนองบัวแดง กำลังแผ้วถางป่า พร้อมพวกที่ได้อาศัยช่วงชุลมุน หลบวิ่งฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่หนีไปได้กว่า 10 คน จากการตรวจสอบพื้นที่พบป่าไม้ถูกรถแทรกเตอร์ไถปรับพื้นที่ไว้แล้วประมาณ 400-500 ไร่ นอกจากนี้ยังพบว่า มีไม้ท่อน เป็นไม้แดง ไม้เต็งรัง จำนวน 44 ท่อน ปริมาตร 1.20 ลูกบาศก์เมตร ซุกซ้อนอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านทรัพย์เจริญ หมู่ 3 ต.วังชมพู อ.หนองบัวแดง จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด และยึดไม้ของกลางรถแบ็กโฮ 1 คัน อาวุธปืนอัดลมยาว 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน ส่งมอบสถานีตำรวจภูธรโนนเหมา ต.หนองบัวแดง มี พ.ต.ท.ชัยณรงค์ น้อยวรรณ หัวสถานีรับไปดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ก่อนที่จะส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจ้าของพื้นที่ นายพิชิต ชูสกุล หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ ชย.12 ไปดำเนินการในข้อหาร่วมกันบุกรุกแผ้วถางถือครองที่ดินป่าเตรียมการสงวนแปลง 10 หมายเลข 1 ต่อไป
ต่อมาหนึ่งในชาวบ้านที่เข้าถือครองที่ดินบริเวณข้างเคียง เปิดเผยว่า การได้เข้ามาถือครองที่ดินบริเวณนี้ส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าเป็นที่ป่าเตรียมการสงวน เพราะมีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และนายต่อ นายไผ่ หรือชาวบ้านที่นี่เรียกกันว่า “สารวัตรไผ่” นายทุนใหญ่เจ้าของร้านเพชรที่กรุงเทพฯ แนะนำให้มาซื้อเพื่อปรับพื้นที่ปลูกยางพารา ในเนื้อที่กว่า 70 ไร่ ในราคา 400,000 บาท ตกไร่ละประมาณ 5,000-6,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลขอตรวจค้นที่บ้าน “นายไผ่” กลับถูกนางจวนอ้างว่าเป็นภรรยา อาศัยอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่อีกหลังในหมู่บ้านซับเจริญ ได้ต่อว่าเจ้าหน้าที่ขณะจับกุม พร้อมอ้างว่าได้เคลียร์กับผู้การฯ ไปแล้วจะมาจับทำไม และห้ามเข้าตรวจค้นโดยเด็ดขาด พร้อมกับมีชายคนหนึ่งบอกว่า เป็นผู้ใหญ่บ้านซับเจริญ ก็กล่าวอ้างว่า ได้เคลียร์กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปหมดแล้ว และ ส่วนนายไผ่ เองไม่ได้อยู่ที่นี่
นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า กรณีการบุกจับกุมผู้กระทำความผิดบุกรุกป่าพื้นที่เตรียมการสงวนแปลง 10 หมายเลข 1 กว่า 1,000 ไร่ ทางจังหวัดฯ จะเร่งดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จะไปเกี่ยวข้องเรื่องการกระทำความผิดประเภทนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะถือว่าผืนป่าบริเวณนี้เป็นป่าต้นกำเนิดแม่น้ำชี ของจังหวัดชัยภูมิที่สำคัญมาก
ด้าน พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ กล่าวว่า ในกรณีที่มีบุคคลไปแอบอ้างชื่อจะต้องมีการดำเนินการเอาผิดให้หมด เพราะตนเป็นคนสั่งเข้าจับกุมเอง แล้วจะมาแอบอ้างให้ตนเสียหายไม่ได้
ขณะที่ นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้เจ้าของพื้นที่ ชย.12 ต้องเร่งรายงานมาให้ทราบโดยด่วน ซึ่งจะต้องรับผิดชอบด้วยว่าอยู่ในพื้นที่ทำไมไม่ทราบเรื่อง ซึ่งคงต้องตั้งคณะกรรมการลงไปสอบสวนด้วย เพราะพื้นที่ดังกล่าวถือว่าเป็นพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นผืนป่าต้นน้ำที่สำคัญของต้นน้ำชี (ซี) ด้วย