พิจิตร - ตำรวจพิจิตรระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 1,000 นาย กวาดล้างผู้มีอิทธิพล-ซุ้มมือปืน รับเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วจังหวัด หลังพบแข่งขันกันรุนแรง ขณะที่กระแสข่าวซื้อเสียงล่วงหน้าสะพัดนักการเมืองชื่อดังเตรียมจ่ายตำบลละ 1 ล้านบาท
พ.ต.อ.จรวย ผลประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.พิจิตร เปิดเผยว่า ตามที่ จ.พิจิตร จะมีการเลือกตั้งของ อบต.27 แห่ง และเทศบาล 1 แห่ง ซึ่งหลายพื้นที่หาเสียงกันอย่างดุเดือด ถึงขั้นประกาศยอมตายไม่ยอมแพ้ ยอมหมดตัว ไม่ยอมสอบตก แต่ละฝ่ายล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่ในท้องถิ่น
อีกทั้งมีนักการเมืองทั้งระดับจังหวัดและระดับชาติ เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงหนุนหลัง จึงทำให้ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองระดับท้องถิ่นแข่งขันดุเดือด มีเรื่องร้องไปยัง กกต.จำนวนมาก รวมทั้งร้องมายังกองบังคับการตำรวจภูธร จ.พิจิตร เพื่อขอการคุ้มครองเนื่องจากเกรงว่าจะถูกทำร้ายหรือถูกฆ่าตัดตอนก่อนจะถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 กันยายน 2552 นี้
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชวลิต ชาญเวชช์ ผบก.ภ.จว.พิจิตร มีนโยบายและสั่งการให้ทุกพื้นที่ระดมกำลังตั้งจุดสกัดจุดตรวจเข้าตรวจค้นบ้านผู้กว้างขวาง และหัวคะแนนที่มีอิทธิพลและมีประวัติส่อว่าจะสร้างความรุนแรงในช่วงการเลือกตั้ง อีกทั้งเป็นการป้องกันสกัดมิให้เกิดการซื้อเสียงหรือทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งจะระดมกำลังตำรวจเกือบ 1,000 นาย เข้าตรวจค้นแบบปูพรมเป็นระยะๆ
นอกจากนี้ยังขอฝากถึงประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่า ขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตาและชี้เบาะแสของผู้กระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้ตำรวจพิจิตรได้วางสายลับโดยให้ตำรวจบ้านเป็นผู้หาข่าว ซึ่งจะมีการชี้จุดและเป้าหมายอย่างแม่นยำ ทั้งนี้ การปฏิบัติงานจะต้องให้พึงใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อมิให้ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่จะกลั่นแกล้งกัน อีกทั้งตำรวจจะต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่การเมือง เข้ากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเป็นตำรวจแต่เลือกสีแบ่งข้าง ถ้าพบตำรวจทำตัวเป็นหัวคะแนนหรือยุยงส่งเสริมก็จะลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาดอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ในหลายเขตพื้นที่การเลือกตั้งมีกระแสข่าวว่ามีอดีตนักการเมืองระดับชาติเตรียมวางหัวคะแนนในพื้นที่ด้วยการหนุนการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นให้งบประมาณการช่วยเหลือตำบลละ 1 ล้านบาท เพื่อให้ใช้เป็นทุนในการซื้อเสียง และแบ่งสีเสื้อในอนาคต จึงทำให้สถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น จนเป็นที่จับตามองของตำรวจและ กกต. ถึงวิธีการซื้อเสียงและเงินที่จะโอนเข้ามาในพื้นที่อีกด้วย
พ.ต.อ.จรวย ผลประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.พิจิตร เปิดเผยว่า ตามที่ จ.พิจิตร จะมีการเลือกตั้งของ อบต.27 แห่ง และเทศบาล 1 แห่ง ซึ่งหลายพื้นที่หาเสียงกันอย่างดุเดือด ถึงขั้นประกาศยอมตายไม่ยอมแพ้ ยอมหมดตัว ไม่ยอมสอบตก แต่ละฝ่ายล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่ในท้องถิ่น
อีกทั้งมีนักการเมืองทั้งระดับจังหวัดและระดับชาติ เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงหนุนหลัง จึงทำให้ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองระดับท้องถิ่นแข่งขันดุเดือด มีเรื่องร้องไปยัง กกต.จำนวนมาก รวมทั้งร้องมายังกองบังคับการตำรวจภูธร จ.พิจิตร เพื่อขอการคุ้มครองเนื่องจากเกรงว่าจะถูกทำร้ายหรือถูกฆ่าตัดตอนก่อนจะถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 กันยายน 2552 นี้
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชวลิต ชาญเวชช์ ผบก.ภ.จว.พิจิตร มีนโยบายและสั่งการให้ทุกพื้นที่ระดมกำลังตั้งจุดสกัดจุดตรวจเข้าตรวจค้นบ้านผู้กว้างขวาง และหัวคะแนนที่มีอิทธิพลและมีประวัติส่อว่าจะสร้างความรุนแรงในช่วงการเลือกตั้ง อีกทั้งเป็นการป้องกันสกัดมิให้เกิดการซื้อเสียงหรือทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งจะระดมกำลังตำรวจเกือบ 1,000 นาย เข้าตรวจค้นแบบปูพรมเป็นระยะๆ
นอกจากนี้ยังขอฝากถึงประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่า ขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตาและชี้เบาะแสของผู้กระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้ตำรวจพิจิตรได้วางสายลับโดยให้ตำรวจบ้านเป็นผู้หาข่าว ซึ่งจะมีการชี้จุดและเป้าหมายอย่างแม่นยำ ทั้งนี้ การปฏิบัติงานจะต้องให้พึงใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อมิให้ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่จะกลั่นแกล้งกัน อีกทั้งตำรวจจะต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่การเมือง เข้ากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเป็นตำรวจแต่เลือกสีแบ่งข้าง ถ้าพบตำรวจทำตัวเป็นหัวคะแนนหรือยุยงส่งเสริมก็จะลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาดอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ในหลายเขตพื้นที่การเลือกตั้งมีกระแสข่าวว่ามีอดีตนักการเมืองระดับชาติเตรียมวางหัวคะแนนในพื้นที่ด้วยการหนุนการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นให้งบประมาณการช่วยเหลือตำบลละ 1 ล้านบาท เพื่อให้ใช้เป็นทุนในการซื้อเสียง และแบ่งสีเสื้อในอนาคต จึงทำให้สถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น จนเป็นที่จับตามองของตำรวจและ กกต. ถึงวิธีการซื้อเสียงและเงินที่จะโอนเข้ามาในพื้นที่อีกด้วย