กาญจนบุรี - ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ นั่งก้นไม่ติดเก้าอี้ พาสื่อท้องถิ่นบุกตรวจอุโมงค์แกนสันเขื่อนยาว 1,300 เมตร ทุกตารางนิ้ว เพื่อดับกระแสข่าวเขื่อนร้าว ไม่แข็งแรง
ความคืบหน้ากรณีเขื่อนศรีนครินทร์ ปล่อยน้ำลงแม่น้ำแควใหญ่ จนเป็นเป็นเหตุให้ระดับน้ำสูงขึ้น 2-3 เมตร ส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่ราบลุ่มแม่น้ำนั้น
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (17 ส.ค.) นายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนที่รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ประชุมด่วนที่ห้องประชุมมุกดา เขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อสรุปผลการสำรวจและวางแนวทางในการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำของเขื่อนในครั้งนี้
ต่อมาเวลา 13.00 น.นายกิตติ ตันเจริญ ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนหลังการประชุม ว่า ทางเขื่อนศรีนครินทร์พร้อมที่จะรับผิดชอบในส่วนของได้ผลกระทบ โดยทางเขื่อนได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อร่วมกันสำรวจและรับเรื่องร้องเรียนตามจุดต่าง โดยตั้งจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์ 8 จุด โดยเจ้าหน้าที่ของเขื่อน และ ปภ.จะร่วมกันรับคำร้องในส่วนที่ได้รับผลกระทบเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป
ต่อจากนั้น ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน โดยเริ่มจากตรวจสอบแนวสันเขื่อนและนำลงตรวจสอบอุโมงค์แกนกลางขวางตัวเขื่อน
โดยจุดแรกได้นำตรวจสอบหมุดวัดการทรุดตัวของสันเขื่อน และลาดเขื่อนด้านท้ายน้ำ รวมทั้งหมุดวัดการเคลื่อนตัวของสันเขื่อน พร้อมโชว์ข้อมูลการตรวจวัดตลอดทั้ง 7 วันที่ผ่านมา ที่เครื่องตรวจวัดการเคลื่อนตัวของผิวดินที่ตรวจจับอัตราเร่งของพื้นดิน ที่เกิดจากแผ่นดินไหว และส่งผลกระทำต่อเขื่อนไม่สามารถตรวจจับสัญญาณการเคลื่อนตัวแต่อย่างใด
ต่อจากนั้น ผู้อำนวยการเขื่อน ได้พาสื่อมวลชนลงสู่อุโมงค์แกนขวางเขื่อนที่แนวสันเขื่อนโดยนำตรวจสอบ เครื่องมือวัดแรงดันน้ำในตัวเขื่อนและฐานราก ดูหมุดวัดระดับน้ำใต้ดิน, เครื่องมือวัดน้ำรั่วซึม, เครื่องมือวัดการเคลื่อนตัวของไหล่เขารองรับท่อส่งน้ำ
นายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยอีกว่า ข้อมูลที่สร้างความมั่นใจแก่สาธารณะที่เป็นจุดสำคัญที่สุดที่สามารถตรวจสอบว่าเขื่อนศรีนครินทร์มั่นคงแข็งแรงปลอดภัยจริง 100% คือ การวัดปริมาณการรั่วซึมของน้ำ ภายในอุโมงค์ ตรวจวัดได้ไม่เกิน 68 ลิตร/นาที
โดยอุโมงค์มีความยาว ประมาณ 1,300 เมตร มีจุดตรวจวัดการรั่วซึมของน้ำอยู่ 7 จุด ซึ่งเป็นการรั่วซึมของน้ำฝน น้ำใต้ดิน และน้ำหน้าเขื่อนที่จะเป็นข้อมูลที่ยืนยันว่าเขื่อนปลอดภัยตามหลัดวิศวกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่เริ่มเข้าสู่ปกติ แต่ที่บริเวณบ้านลิ้นช้าง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่เป็นจุดบรรจบรวมของแม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อยที่รวมเป็นต้นแม่น้ำแม่กลองระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นเนื่องจากน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ เริ่มไหลลงมาถึงบริเวณดังกล่าว และเริ่มส่งผลกระทบกับที่ราบลุ่มในเขตพื้นที่ อ.ไทรโยคที่น้ำเอ่อไหลเข้าท่วมตามรีสอร์ตโรงแรมที่สร้างในที่ราบลุ่มริมแม่น้ำแควน้อย