ศูนย์ข่าวศรีราชา-พลเมืองดีเข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา ให้ดำเนินคดี “วีระ-เต้น-ตู่” 3 หัวโจกเสื้อแดงและพวก ฐานล่าชื่อถวายฎีกาช่วย “นช.ทักษิณ” โดยผิด กม.อาญามาตรา 189 ช่วยเหลือคนผิดไม่ให้รับโทษ และมาตรา 198 ดูหมิ่นศาล
วันนี้ (13 ส.ค.) นายนรินทร์ อ้วนถาวร ได้เดินทางเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา ให้ดำเนินคดีต่อนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมกับพวก ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ว่าด้วยการช่วยเหลือผู้กระทำผิดไม่ให้ได้รับโทษ และมาตรา 198 ว่าด้วยการดูหมิ่นศาลโดยเร็วและไม่ควรปล่อยปละละเลยให้กลุ่มนี้ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองอีกต่อไป เนื่องจากความผิดข้างต้นเป็นความผิดต่ออาญาแผ่นดิน เป็นคดีที่ไม่อาจยอมความกันได้ จึงได้มาร้องขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงให้รีบดำเนินการโดยเร่งด่วน
ทั้งนี้ จากกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งนำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ กับพวก ที่ดำเนินการรวบรวมรายชื่อประชาชนที่นิยมชมชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ร่วมกันลงชื่อถวายฎีกาเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีการโฆษณาป่าวประกาศว่าจะสามารถนำรายชื่อประชาชนจำนวนหลายล้านคนมาร่วมลงรายชื่อ เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และประกาศว่าจะพามวลชนเรือนแสนนำฎีกาไปยื่นต่อราชเลขาธิการ ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีลักษณะที่เป็นการดำเนินการทางการเมือง เพื่อกดดันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นเรื่องที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ยังเป็นการกระทำความผิดต่อตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อมิให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ” รวมทั้งกระทำผิดมาตรา 198 กรณีที่เนื้อหาในฎีกาได้ดูหมิ่นศาล มีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี และการที่เนื้อหาในฎีกามีลักษณะกล่าวร้ายต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถือว่าเป็นการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งต้องห้ามตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 23 วรรคสอง ประกอบพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2549 มาตรา 4 ที่ระบุว่า ผู้ซึ่งจะได้รับการพระราชทานอภัยโทษต้องมีตัวตนอยู่ในความควบคุมของทางราชการ หรือถูกกักขังไว้ในสถานที่หรือที่อาศัยที่ศาลหรือทางราชการกำหนดฯ ดังนั้น กลุ่มเสื้อแดงย่อมไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้
