ฐานทัพเรือสัตหีบจัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฐานทัพเรือสัตหีบจัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ ปล่อยปลา 120,000 ตัว ถวายเป็นพระราชกุศล

วันนี้ (11 ส.ค.) พล.ร.ท.ศรีวิสุทธิ์ รตารุณ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบได้เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา “12 สิงหาพระบรมราชินี” ร่วมกันสร้างอีก 1 ความดี คืนชีวิตสัตว์ปล่อยปลานิล ปลาใน ปลาตะเพียน จำนวน 120,000 ตัว ลงในทะเลสาบน้ำจืดหนองตะเคียน ณ สวนสาธารณกรมหลวงชุมพร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ตามนโยบายกองทัพเรือให้หน่วยต่างๆ ในกองทัพเรือจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ “วันแม่แห่งชาติ” ซึ่งตรงกับ วันพุธที่ 12 สิงหาคม 2552 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่มีต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นอเนกประการ

ในการนี้ ฐานทัพเรือสัตหีบได้จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 77พรรษา “12 สิงหา พระบรมราชินีนาถ” ได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลาน้ำจืดจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด ชลบุรี

รวมทั้งยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งในฐานทัพเรือสัตหีบ หน่วยงานราชการในพื้นที่สัตหีบและใกล้เคียง ได้แก่ อำเภอสัตหีบ สถานีตำรวจภูธรอำเภอสัตหีบ เทศบาลเมืองสัตหีบ ประกอบด้วยกิจกรรมปล่อยปลา จำนวน 120,000 ตัว ได้แก่ ปลานิล ปลาไน ปลาตะเพียนขาว ปลายี่สก ณ ทะเลสาบน้ำจืด บริเวณหอนาฬิกา สวนกรมหลวงชุมพร กองทัพเรือ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 125 ไร่

ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ สำหรับการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติที่พวกเราได้ร่วมแรงร่วมใจจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้น เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ “วันแม่แห่งชาติ” ซึ่งตรงกับวันพุธที่ 12 สิงหาคม 2552 นั้น ก็เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ได้ทรงพระราชอุตสาหะบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ที่ล้วนนำมาซึ่งประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์ และความวัฒนาของประเทศชาติทั้งสิ้น

นับเป็นบุญอันประเสริฐของชาวไทย ที่ได้เกิดมาภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ได้อาศัยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมให้ร่มเย็นเป็นสุขตลอดมาทรงห่วงใยในงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ มีการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม และปลูกป่าขึ้นใหม่ ทรงเผยแพร่ศิลปหัตถกรรม วัฒนธรรมพื้นบ้าน อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ นำประเทศชาติไปสู่ความเจริญ และได้รับการยอมรับจากอารยประเทศด้วยพระปรีชาสามารถ รักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งจะต้องดำเนินการโครงการต่อเนื่องให้กับท้องถิ่น พระองค์ทรงมีเมตตาธรรม และพระจริยธรรมที่เลิศล้ำประเสริฐยิ่งอีกด้วย