ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สาธารณสุขเชียงใหม่เผยยอดผู้ป่วยสะสมไข้หวัดใหญ่ 2009 เฉียด 600 ราย แล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษาจำกัดวงระบาดอยู่ในเขตเมืองเป็นหลัก ระบุทั้งจังหวัดมีเพียง 2 อำเภอที่ไม่พบผู้ป่วย แต่ยอมรับหวั่นจะมีการระบาดออกสู่อำเภอรอบนอกและกลุ่มประชากรด้อยโอกาส เช่น แรงงานต่างด้าว ชาวเขา เนื่องจากจะทำให้มีอุปสรรคและเกิดความยากลำบากในการรักษาพยาบาลเพราะมีข้อจำกัดเพิ่มขึ้น
นางชลลิสา จริยาเลิศลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า ข้อมูลถึง ณ วันที่ 5 ส.ค.52 จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ได้รับการยืนยันผลการตรวจเชื้อจำนวนทั้งสิ้น 580 คน และอยู่ระหว่างการรอผลตรวจยืนยันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งในจำนวนผู้ป่วยดังกล่าวกว่า 300 ราย เป็นผู้ป่วยในเขตอำเภอเมืองและส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษาในสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่ซึ่งควบคุมได้ยาก
ทั้งนี้ การระบาดของโรคส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในเขตอำเภอเมือง และขยายไปยังอำเภอรอบๆ เหนือสุดที่อำเภอแม่ริม และใต้สุดที่อำเภอจอมทอง ขณะที่อำเภออื่นๆ พบผู้ป่วยบ้างจำนวนเล็กน้อย 1-2 คน ซึ่งไม่ถือว่าอยู่ในขั้นระบาดและได้รับการรักษาแล้ว โดยจังหวัดเชียงใหม่ถึงเวลานี้มี 2 อำเภอที่ไม่พบผู้ป่วย คือ อำเภอเวียงแหงและอำเภอฮอด
ส่วนการคาดหมายสถานการณ์นั้น นางชลลิสาระบุว่า คาดว่าการระบาดจะมีการขยายพื้นที่ไปยังอำเภอต่างๆ มากขึ้น เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายของประชากรตลอดเวลา ซึ่งเวลานี้จึงไม่อยากให้มีการจัดกิจกรรมใดๆ ที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายประชากรและรวมกลุ่มกันครั้งละเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ เนื่องจากมีความเป็นห่วงว่าหากมีการระบาดไปถึงระดับอำเภอมากขึ้น จะมีข้อจำกัดในการรักษา เพราะโรงพยาบาลอำเภอบางแห่งมีข้อจำกัดในเรื่องของบุคลากรและเครื่องมือทางการแพทย์
นอกจากนี้ยังมีความเป็นห่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ไปยังกลุ่มประชากรด้อยโอกาส เช่น แรงงานต่างด้าว ชาวเขา เป็นต้น เพราะจะทำให้เกิดความยากลำบากมากขึ้นในการรักษาพยาบาลและควบคุมการระบาด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีข้อจำกัดมากกว่าคนในเมือง
นอกจากนี้ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงมาตรการในการดูแลป้องกันตัวเองของประชาชนว่า ให้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเสมอเพื่อต้านทานโรค ลดโอกาสการได้รับเชื้อด้วยการกินของร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ สวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องเมื่อจำเป็น และหารู้ว่ามีความเสี่ยงต่อการมีอาการหนักเมื่อติดเชื้อ เช่น ตั้งท้อง ป่วยเรื้อรัง เป็นต้น ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ และหากมีอาการป่วยเป็นหวัดและมีไข้ ให้รีบพบแพทย์ และหากป่วยต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยการสวมใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการไปเยี่ยมผู้ป่วย มารดา/ทารกหลังคลอด แยกตัวจากคนหมู่มาก ไม่ใกล้ชิดกับผู้อื่นอย่างน้อย 7 วัน ใส่ใจสุขภาพ เข้ารับการรักษาและกินยาต้านไวรัสให้ครบแม้อาการดีขึ้นแล้ว
ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือสถานประกอบการให้มีมาตรการการคัดกรองดูแลพนักงาน ลูกค้าและผู้มาติดต่อ หากเป็นหน่วยงานจอให้หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการนำนักเรียนหรือประชาชนจากพื้นที่ต่างๆ มารวมกัน หากจำเป็นต้องจัดให้เพิ่มมาตรการการคัดกรองผู้ป่วยออกจากการรวมกลุ่ม มีการเตรียมหน้ากากอนามัยพร้อมใช้ จัดให้มีที่ล้างมือ สบู่ กระดาษเช็ดมือและเจลล้างมือ รวมทั้งหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีการสัมผัสใกล้ชิดของผู้เข้าประชุม
นางชลลิสา จริยาเลิศลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า ข้อมูลถึง ณ วันที่ 5 ส.ค.52 จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ได้รับการยืนยันผลการตรวจเชื้อจำนวนทั้งสิ้น 580 คน และอยู่ระหว่างการรอผลตรวจยืนยันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งในจำนวนผู้ป่วยดังกล่าวกว่า 300 ราย เป็นผู้ป่วยในเขตอำเภอเมืองและส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษาในสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่ซึ่งควบคุมได้ยาก
ทั้งนี้ การระบาดของโรคส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในเขตอำเภอเมือง และขยายไปยังอำเภอรอบๆ เหนือสุดที่อำเภอแม่ริม และใต้สุดที่อำเภอจอมทอง ขณะที่อำเภออื่นๆ พบผู้ป่วยบ้างจำนวนเล็กน้อย 1-2 คน ซึ่งไม่ถือว่าอยู่ในขั้นระบาดและได้รับการรักษาแล้ว โดยจังหวัดเชียงใหม่ถึงเวลานี้มี 2 อำเภอที่ไม่พบผู้ป่วย คือ อำเภอเวียงแหงและอำเภอฮอด
ส่วนการคาดหมายสถานการณ์นั้น นางชลลิสาระบุว่า คาดว่าการระบาดจะมีการขยายพื้นที่ไปยังอำเภอต่างๆ มากขึ้น เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายของประชากรตลอดเวลา ซึ่งเวลานี้จึงไม่อยากให้มีการจัดกิจกรรมใดๆ ที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายประชากรและรวมกลุ่มกันครั้งละเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ เนื่องจากมีความเป็นห่วงว่าหากมีการระบาดไปถึงระดับอำเภอมากขึ้น จะมีข้อจำกัดในการรักษา เพราะโรงพยาบาลอำเภอบางแห่งมีข้อจำกัดในเรื่องของบุคลากรและเครื่องมือทางการแพทย์
นอกจากนี้ยังมีความเป็นห่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ไปยังกลุ่มประชากรด้อยโอกาส เช่น แรงงานต่างด้าว ชาวเขา เป็นต้น เพราะจะทำให้เกิดความยากลำบากมากขึ้นในการรักษาพยาบาลและควบคุมการระบาด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีข้อจำกัดมากกว่าคนในเมือง
นอกจากนี้ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงมาตรการในการดูแลป้องกันตัวเองของประชาชนว่า ให้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเสมอเพื่อต้านทานโรค ลดโอกาสการได้รับเชื้อด้วยการกินของร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ สวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องเมื่อจำเป็น และหารู้ว่ามีความเสี่ยงต่อการมีอาการหนักเมื่อติดเชื้อ เช่น ตั้งท้อง ป่วยเรื้อรัง เป็นต้น ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ และหากมีอาการป่วยเป็นหวัดและมีไข้ ให้รีบพบแพทย์ และหากป่วยต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยการสวมใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการไปเยี่ยมผู้ป่วย มารดา/ทารกหลังคลอด แยกตัวจากคนหมู่มาก ไม่ใกล้ชิดกับผู้อื่นอย่างน้อย 7 วัน ใส่ใจสุขภาพ เข้ารับการรักษาและกินยาต้านไวรัสให้ครบแม้อาการดีขึ้นแล้ว
ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือสถานประกอบการให้มีมาตรการการคัดกรองดูแลพนักงาน ลูกค้าและผู้มาติดต่อ หากเป็นหน่วยงานจอให้หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการนำนักเรียนหรือประชาชนจากพื้นที่ต่างๆ มารวมกัน หากจำเป็นต้องจัดให้เพิ่มมาตรการการคัดกรองผู้ป่วยออกจากการรวมกลุ่ม มีการเตรียมหน้ากากอนามัยพร้อมใช้ จัดให้มีที่ล้างมือ สบู่ กระดาษเช็ดมือและเจลล้างมือ รวมทั้งหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีการสัมผัสใกล้ชิดของผู้เข้าประชุม
