ระยอง - ชาวบ้าน กว่า 200 คน ลุกฮือคัดค้านการก่อสร้างไม่ให้สร้างโรงงานถ่านโค้กที่ระยอง
วันนี้ (7 ส.ค.) ชาวบ้านชุมชนมาบข่า-สำนักอ้ายงอน อ.นิคมพัฒนา และชุมชนห้วยโป่ง 3 จ.ระยอง กว่า 200 คน นำโดยนายวิเชียร ศักดิ์เจริญ ประธานชุมชนมาบข่า-สำนักอ้ายงอน ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา และนางนิตยา แสนศิริ ประธานชุมชนห้วยโป่ง 3 เขตเทศบาลเมืองมาบตา เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าสำนักงาน อุตสาหกรรม จ.ระยอง ต.เนินพระ ขึงป้ายเขียนว่า “ถ้ายอมให้สร้างโรงงานถ่านหิน ทุกชีวิตจะต้องถูกทำลายล้างตายไปตามกัน” ที่หน้าสำนักงานอุตสาหกรรม คัดค้านการก่อสร้างโรงงานถ่านโค้ก หลังจากที่เคยยื่นหนังสือคัดค้านการตั้งโรงงานกับอุตสาหกรรมจังหวัด เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2551 ไม่มีความคืบหน้า
นายบัณฑิต ธงศรีเจริญ อุตสาหกรรมจ.ระยอง ได้เชิญนายวิเชียร ศักดิ์เจริญ ประธานชุมชนมาบข่า-สำนักอ้ายงอน และนางนิตยา แสนศิริ ประธานชุมชนห้วยโป่ง 3 ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้แทนบริษัท ไทยเจนเนอรัลไนซ์โคล แอนด์โค๊ก จำกัด นายสุรินทร์ สินรัตน์ ผู้แทนนายสมพงษ์ โสภณ นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด นายพงศธร ถาวรวงศ์ รองปลัดเทศบาลเมืองมาบตาพุดฯลฯ เข้าร่วมประชุมชั้น 2 จำนวน 80 คน
นายวิเชียรกล่าวว่า ชาวบ้านหวั่นวิตกโรงงานถ่านโค้กที่จะมาสร้างในพื้นที่กว่า 460 ไร่ จะส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน หลังจากโรงงานมีการยื่นขออนุญาตสร้างโรงงาน ก็ถูกชาวบ้านคัดค้านมาตลอด เพราะฉะนั้นโรงงานต้องทำให้ชาวบ้านมีความมั่นใจว่าจะไม่เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ได้ และอุตสาหกรรมจังหวัดต้องมีกฎระเบียบที่จะควบคุมโรงงานที่ชัดเจน และขอความจริงใจโรงงานให้มีความบริสุทธิ์ใจด้วยใจจริง เพราะขณะนี้มีการปล่อยข่าวเรื่องการให้ผลประโยชน์บางคน ทำให้เกิดความแตกแยกในชุมชน
นายบัณฑิตกล่าวชี้แจงว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดให้การขออนุญาตตั้งโรงงานเล็ก และขนาดใหญ่ อุตสาหกรรมจังหวัด ต้องประสานอำเภอท้องที่และท้องถิ่น ต้องติดประกาศให้ชาวบ้านรับรู้ หากมีการคัดค้านก็ต้องมีการพิจารณาในการขออนุญาต การขออนุญาตโรงงานรายนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดและอุตสาหกรรมจังหวัด ที่จะออกใบอนุญาตให้ได้ แต่ต้องส่งเรื่องให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมพิจารณาอนุญาต ขณะเดียวกัน เทศบาลเมืองมาบตาพุด ตอบรับหนังสือไม่ขัดข้องที่จะอนุญาตโรงงานรายนี้ ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 ชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมลุกขึ้นตอบโต้ด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจว่าจะไม่ยอมให้มีการก่อสร้างโรงงานรายนี้อย่างถึงที่สุด พร้อมที่จะต่อสู้ทุกวิถีทาง
ในที่สุดผู้แทนโรงงานกล่าวในที่ประชุมว่า โรงงานจะดำเนินการรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวบ้านให้ได้