xs
xsm
sm
md
lg

ตามกลิ่น “พริกแกงพันปี” พิจิตร-แม่เฒ่าทับคล้อรวมกลุ่มโคลกขายทำเงินแสนแทนอยู่ว่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิจิตร - กลุ่มผู้สูงอายุทับคล้อ เมืองชาละวัน เดินตามรอยชุมชนเข้มแข็ง รวมกลุ่มผลิตเครื่องแกง “น้ำพริกแกงพันปี” ขายปลีก-ส่ง แทนว่างงานอยู่บ้านเลี้ยงหลานอย่างเดียว เผยปีกลายทำขายได้กว่า 1,500 กก.ทำเงินเข้ากลุ่มกว่าแสน วอนหน่วยงานรัฐส่งเสริมการตลาด

นางจรัญทิพย์ ฉิมมา สมาชิก อบต. ม.6 ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เปิดเผยว่า เนื่องจากในหมู่บ้านมีผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่มีงานทำ บางรายใช้ชีวิตแบบผ่านไปวันๆ เท่านั้น จึงได้มีการระดมความคิดกันว่าน่าจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์กับตนเองและชุมชน จากนั้นราวเดือนมิถุนายน 2551 จึงได้รวมตัวกันจากผู้สูงอายุ 25 คน ลงหุ้นกันคนละ 100 บาท ตั้งเป็นกลุ่มตำน้ำพริกแกงขาย ใช้ชื่อกลุ่มว่า “น้ำพริกแกงพันปี” บ้านสายดงยาง อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร โดยมี อบต.ทับคล้อ และศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนพิจิตร (กศน.พิจิตร) เป็นผู้เข้ามาส่งเสริม

ผู้สูงอายุจะนัดกันมาตำน้ำพริกแกงเผ็ด น้ำพริกแกงส้มขาย ทุกสัปดาห์ เพื่อนำไปขายตามตลาดนัดหรือขายส่งให้กับรถเร่ขายสินค้าในหมู่บ้าน สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ และทำเรื่อยมาจนถึงขณะนี้

นางขันถม กลิ่นเกล้า อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 707 ม.6 บ้านสายดงยาง ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อจ.พิจิตร ประธานกลุ่ม เล่าถึงความภาคภูมิใจที่ทุกคนมองเห็นคนแก่มีคุณค่าว่า ทุกวันนี้สมาชิกกลุ่มมีมากกว่า 40 คน อายุต่ำสุดประมาณ 50 ปี อายุมากที่สุด คือ นางชั้น คงนวล อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 613 ม.10 บ้านสายดงยาง ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร

นางขันถมบอกว่า ทุกคนจะมีครกและสากเบือเป็นอาวุธประจำกายนำมาจากบ้าน เมื่อถึงวันนัดหมายต่างคนก็ต่างอุ้มครกแบกสากมาที่กลุ่มเพื่อตำน้ำพริกแกงขาย วัตถุดิบที่ใช้ ได้แก่ ตระไคร้ พริกแกง ข่า มะกรูด กระชาย หอม กะปิ น้ำปลา ก็จะซื้อจากสมาชิกด้วยกันที่ปลูกพืชผักสมุนไพรไว้หลังบ้าน สลับสับเปลี่ยนกันนำมาขาย โดยทางกลุ่มจะเป็นผู้รับซื้อตะไคร้ กิโลกรัมละ 5 บาท ข่า กิโลกรัมละ 20 บาท มะกรูด 100 ลูก 5 บาท กระชายกิโลกรัมละ 30 บาท สร้างรายได้ในทางตรงให้กับสมาชิกก่อน

จากนั้นนำมาเพิ่มมูลค่าด้วยการมาตำเป็นน้ำพริกแกง ใน 1 สัปดาห์จะทำ 1 ครั้ง ครั้งละ 20 กก. ใช้เวลาตำไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็แล้วเสร็จ เพื่อนำไปขายส่ง-ขายปลีก ในราคากิโลกรัมละ 55-60 บาท เดือนหนึ่งๆ ก็จะมีรายได้เข้ากลุ่ม 3,000-4,000 บาท แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลงานบุญก็จะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัว

ส่วนแบ่งที่ตกถึงมือ ผู้สูงอายุที่ออกแรงจะแบ่งกันเมื่อตำน้ำพริกทุกๆ 5 ครั้ง แต่เมื่อปีที่แล้วผลิตน้ำพริกแกงขาย มากกว่า 1,500 กิโลกรัม มีรายได้เข้ากลุ่มเกือบ 1 แสนบาท ถึงสิ้นปีก็เอามาปันผลทำสาธารณประโยชน์ในชุมชนอีกด้วย

คุณยายชั้น ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มตำน้ำพริกแกงพันปี เล่าถึงเคล็ดลับของน้ำพริกแกงสูตรโบราณพันปีของคุณยายว่า น้ำพริกแกงพันปี ไม่ใส่สารกันบูด เครื่องปรุงทุกอย่างเมื่อล้างน้ำแล้วจะเอามาวางให้สะเด็ดน้ำจนแห้งพอสมควร จากนั้นก็จะชั่ง ตวง วัด ให้ได้ตามสูตร แล้วนำมาผสมคลุกเคล้า จากนั้นก็จะตักแบ่งใส่ครกหินช่วยกันโขลกจนได้ที่ ต่อจากนั้นก็นำไปใส่ครกไม้ขนาดใหญ่ ตำแล้วปรุงด้วยน้ำปลา เพื่อให้เกิดความเหนียวหนืดของน้ำพริกแกง สามารถเก็บไว้ได้ 7 วัน แต่ถ้าเข้าตู้เย็น จะอยู่ได้ถึง 3 เดือน โดยไม่บูด หรือเน่าเสีย อีกทั้งรสชาติก็จะไม่เปลี่ยน ความหอมและคุณค่าของสมุนไพรก็จะคงอยู่ดั้งเดิม


คุณยายชั้นบอกว่า การตำน้ำพริก คือการออกกำลังกาย อีกทั้งขณะตำกลิ่นของสมุนไพรเมื่อสูดดมเข้าไปก็จะทำให้มีภูมิคุ้มกันต้านทานไข้หวัด ซึ่งสมาชิกทุกคนล้วนมีสุขภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใส เพราะได้รวมกลุ่มทำงานร่วมกันและพูดคุยเสวนาปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ ครอบครัว เรียกว่า ร่วมทุกข์ร่วมสุข แก้ปัญหาร่วมกัน และมีรายได้เป็นของตนเอง ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่า

สิ่งที่กลุ่มฯ ขาดอยู่ขณะนี้ คือ ขาดการสนับสนุนด้านการตลาดจากภาคราชการ อีกทั้งก็ยังขาดอุปกรณ์ที่แท้แต่ครกกับสากเบือยังต้องแบกมาจากบ้าน รวมถึงถ้วยโถ กะละมัง หม้อ ก็เอามาจากบ้านทั้งสิ้น

“ตำน้ำพริกเสร็จก็ต้องแบกครกกับสากเบือกลับบ้านใครบ้านมัน”

สำหรับท่านใดที่สนใจอุดหนุนน้ำพริกแกงเผ็ด น้ำพริกแกงส้ม ของกลุ่มผู้สูงอายุพันปี ของบ้านสายดงยาง เพื่อนำน้ำพริกแกงไปใช้ปรุงอาหารในชีวิตประจำวันหรือห้องอาหาร ภัตตาคารใด ตลอดจนวัดวาอารามต่างๆ ที่มีงานบวชงานบุญ ต้องการน้ำพริกแกงไปเพิ่มรสชาติอาหารให้เด็ดสะระตี่ สามารถติดต่อได้ที่คุณยายขันถม กลิ่นเกล้า ประธานกลุ่มฯ 08-7972-2771 หรือจรัญทิพย์ ฉิมมา สมาชิก อบต. แกนนำชุมชน โทร. 08-0525-4722






กำลังโหลดความคิดเห็น