ชาวบ้านอุบลฯโวยรัฐลักไก่ดันสร้างโรงไฟฟ้าพลังแกลบ

อุบลราชธานี - ชาวบ้านในพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าพลังชีวมวลใช้แกลบเป็นพลังงาน จ.อุบลราชธานี โวยราชการดันทุรังเปิดเวทีรับฟังความเห็นชาวบ้าน โดยไม่ให้ความรู้จะทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมขอเวลา 2 เดือนให้นักวิชาการศึกษาก่อนตัดสินใจเอาหรือไม่จะดีกว่า

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (30 ก.ค.) ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจาก 6 หมู่บ้าน ใน ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ได้ยื่นหนังสือถึง นายชาตรี ดิเรกศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดให้เปิดประชุมคณะทำงานชี้แจงข้อมูลและรับฟังความเห็นชาวบ้านกรณีสร้างโรงไฟฟ้าพลังชีวมวลใช้แกลบเป็นพลังงานของ บริษัท บัวสมหมายไบโอเมส จำกัด ซึ่งจะก่อสร้างในพื้นที่บ้านคำสร้างไชย เพราะเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดได้ส่งหนังสือให้ตัวแทนชาวบ้าน 6 หมู่บ้าน ซึ่งจะได้รับผลประทบจากการสร้างโรงไฟฟ้าเข้าร่วมประชุมกำหนดกรอบวิธีชี้แจง และการให้ข้อมูลกับชาวบ้าน ก่อนตัดสินใจจะให้สร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้หรือไม่

แต่ปรากฏหนังสือของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดไปถึงชาวบ้านและนักวิชาการที่เข้าร่วมเป็นคณะทำงานช้ากว่ากำหนด ทำให้ตัวแทนชาวบ้านและนักวิชาการไม่มีโอกาสเข้าร่วมประชุมกับคณะทำงานในส่วนราชการที่ตั้งขึ้น และผลการประชุมในวันนั้นได้สรุปให้เปิดเวทีรับฟังความเห็นของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด โดยไม่ต้องมีการชี้แจงถึงผลดีและผลเสียให้ชาวบ้านทราบก่อน

ทำให้ชาวบ้านมองเป็นการลักไก่ของภาคราชการที่ดึงดันให้สร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้ให้ได้ ทั้งที่มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะให้นักวิชาการศึกษาข้อมูล แล้วนำเสนอผลการศึกษาทุกด้านกับชาวบ้านก่อนลงประชามติ จึงมายื่นหนังสือคัดค้านรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งให้เรียกประชุมคณะทำงานกันอีกครั้ง

ด้าน นายเชวงศักดิ์ หัสดิน หัวหน้าฝ่ายโรงงาน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกล่าวกับตัวแทนชาวบ้านที่มาพบว่า ไม่สามารถตัดสินใจเรียกประชุมใหม่ได้ เพราะคณะทำงานได้มีความเห็นไปแล้ว แต่จะได้ส่งหนังสือให้ นายชาตรี ดิเรกศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานคณะทำงานตัดสินใจจะเอาอย่างไรอีกครั้ง

ด้าน น.ส.สดใส สร่างโศรก ตัวแทนชาวบ้านคำสร้างไชย ระบุว่า การเรียกประชุมคณะทำงานไม่ใช่เรื่องยากเย็น และเชื่อว่าประธานคณะทำงานจะฟังเสียงชาวบ้าน เพื่อให้การตัดสินใจให้สร้างหรือไม่สร้างโรงไฟฟ้าพลังชีวมวลแห่งนี้เกิดขึ้นโดยชาวบ้านอย่างแท้จริง แต่หากอุตสาหกรรมจะใช้วิธีรวบรัดเปิดเวทีรับฟังความเห็นทันที

โดยไม่ให้นักวิชาการได้เข้าศึกษาข้อมูล ซึ่งใช้เวลาการศึกษาเพียง 2 เดือน ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งในชุมชนและทำให้ปัญหาการสร้างโรงงานไฟฟ้าแห่งนี้ลุกลามบานปลายไม่มีที่สิ้นสุดได้ สำหรับวันประชุมใหม่ชาวบ้านเสนอให้เป็นวันที่ 18 ส.ค.ศกนี้ เพื่อทุกฝ่ายจะได้เตรียมตัวได้พร้อมกัน