แม่ฮ่องสอน - สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 แม่ฮ่องสอน ยืนยันพบเชื้อ 60 ราย ผู้ป่วยเข้าข่ายสงสัยที่รายงานอีก 122 ราย ปิดโรงเรียน 7 แห่ง
วันนี้ (29 ก.ค.) นายแพทย์สุเมฆ องค์วรรณดี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอนรักษาการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ล่าสุดได้รับรายงานว่าผู้ป่วยผลตรวจยืนยันพบเชื้อ จำนวน 60 ราย และผู้ป่วยเข้าข่ายสงสัยที่รายงาน จำนวน 122 ราย รอผลตรวจ 10 ราย ขณะนี้โรงพยาบาล 7 อำเภอ ได้ตรวจคัดกรองผู้สงสัย และรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้วิธีในการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในพื้นที่แออัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาได้สั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่แม่ฮ่องสอนแล้ว จำนวน 7 แห่ง ประกอบไปด้วยโรงเรียนปางมะผ้าทิพยาสรรค์ อ.ปางมะผ้า โรงเรียนอนุบาลปาย อ.ปาย โรงเรียนบ้านไทรงาม อ.ปาย โรงเรียนบ้านศาลาเมืองน้อย อ.ปาย โรงเรียนอนุบาลเมืองแม่ฮ่องสอน อ.เมืองแม่ฮ่องสอน
ในวันนี้ (29 กรกฎาคม 2552) ผอ. โรงเรียนเทศบาลเมือง และวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีแม่ฮ่องสอน ได้สั่งปิดสถานศึกษาทั้ง 2 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม และเปิดเรียนในวันที่ 3 สิงหาคม 2552 เนื่องจากเด็กนักเรียนและครูเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
วันเดียวกัน ทาง ผอ.วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีแม่ฮ่องสอน ได้ระดมกำลังนักศึกษาทั้งหมดกว่า 300 คน ช่วยกันทำความสะอาดสถานศึกษา
ด้าน นายธวัชชัย วงศ์วาณิชย์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ฝ่ายกองการศึกษาเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เขาได้สั่งปิดโรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนตั้งแต่วันนี้ (29 กรกฎาคม) และจะเปิดในวันที่ 3 สิงหาคม 2552 เนื่องจากทราบว่าเด็กนักเรียนเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เกรงว่าเชื้อไข้หวัดฯ จะแพร่กระจายไปยังกลุ่มนักเรียนจึงได้ทำการปิดโรงเรียนฯ โดยในวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 เวลา 09.00 น.จะทำความสะอาดภายอาคารเรียนโรงเรียนเทศบาลเมืองทั้งหมดเพื่อฆ่าเชื้อหวัด 2009
จากการเปิดเผยชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ระบุว่า ขณะนี้ประชาชนทั่วไปที่สงสัยว่าอาจจะเป็นไข้หวัด 2009 ไม่กล้าไปตรวจหาเชื้อเนื่องจากจะต้องเสียค่าใช้จ่ายรายละ 3,500 บาท และหากผลการตรวจยืนยันพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะต้องจ่ายค่ายารักษาชุดละ 450 บาท เป็นเวลา 7 วัน บางส่วนจึงเริ่มเรียกร้องให้รัฐเข้ามาดูแลมากขึ้น
