เมืองชาละวันเดินหน้าปั้น “บึงสีไฟ” ตั้งเป้าสร้างหมู่บ้านวิถีคนบึง-ดึงโอทอปขาย

พิจิตร - เดินหน้าปั้นบึงสีไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยว ผู้ว่าฯ ตั้งเป้าสร้างหมู่บ้านจำลองวิถีคนบึง-ดึงโอทอปวางขายสร้างตลาดน้ำรองรับ ขณะที่เลขาฯ “ประดิษฐ์” ดึงงบ 90 ล้านหนุนสร้างศาลากลางน้ำบึงสีไฟ

นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ลงพื้นที่บริเวณบึงสีไฟด้านใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งหอดูนก อยู่ในพื้นที่ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.พิจิตร เมื่อเร็วๆ นี้ โดยได้ร่วมกับหลายหน่วยงานบูรณาการการทำงานที่จะพัฒนาบึงสีไฟ นำเครื่องจักรกลจากทางหลวงชนบทไปขุดลอกผักตบชวา และทำถนน เพื่อทำเป็นทางจักรยานและลู่วิ่งออกกำลังกายรอบบึงสีไฟด้านทิศใต้ ระยะทาง 4-5 กม. ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท

นอกจากนี้ กำลังลงมือทำเกาะกลางบึงสีไฟ ซึ่งเป็นที่ตื้นเขินแต่เดิมอยู่แล้ว โดยได้ขุดลอกดินที่อยู่บริเวณรอบๆ มาทำให้เป็นเนินเกาะกลางน้ำ พื้นที่ประมาณเท่ากับ 2 สนามฟุตบอล โดยตั้งเป้าประสงค์ไว้ว่า บนเกาะแห่งนี้จะจำลองวิถีชีวิตของชาวชนบท ชาวประมงน้ำจืดที่มีอาชีพหาปลา ปลูกบัว อยู่ในบึงสีไฟ เป็นที่ท่องเที่ยวจากนั้นจะทำเป็นสะพานหรืออาจจะใช้เป็นสะพานแขวนให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวชม

ภายในเกาะจะประกอบไปด้วยการสาธิตผลิตภัณฑ์ OTOP ตลาดนัดปลาน้ำจืด หรือตลาดนัดขายผลิตผลทางการเกษตรตามวิถีชีวิตของคนบึงสีไฟ และคนใน ต.เมืองเก่า ที่มีกฎมณเฑียรบาลว่า ใครใคร่ค้าช้างค้า ใครใคร่ค้าม้าค้า โดยทางภาครัฐจะเป็นผู้สนับสนุนและให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ

ส่วนบริเวณรอบๆ อนาคตอาจทำเป็นตลาดน้ำ แต่ไม่ใหญ่โตนัก ให้มีเรือมีแพ มีท่าน้ำค้าขายกันริมบึงสีไฟ นอกจากนี้ตามยุคสมัยก็อาจจะทำเป็นบ้านดิน อยู่บนเกาะให้เอกชนเข้าดำเนินการตั้งร้านกาแฟสด นวดแผนไทย ทำท่าเทียบเรือ บริการเรือพายเรือถีบ ร้านอาหารตามวิถีชาวบ้าน เช่น ขนมจีน บัวลอยไข่หวาน ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ขนมเบื้อง ขนมชั้น เท่าที่ภูมิปัญญาของชาวบ้านจะอำนวย แต่จะไม่ทำจนเลิศหรู เพราะต้องอนุรักษ์วิถีชีวิตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป อีกทั้งจะปลูกต้นลำภู เพื่อให้มีหิ่งห้อยในยามค่ำคืน ให้นักท่องเที่ยวที่กางเต็นท์นอนได้ชื่นชมกับวิถีชีวิตธรรมชาติ โดยทั้งหมดนี้จะให้ภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนและมีส่วนร่วมดำเนินการ ซึ่งอาจเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มแม่บ้านเข้าดำเนินการดังกล่าว

โดยขณะนี้ได้เริ่มลงมือเป็นบางส่วนแล้ว และคาดว่าก่อนงานแข่งเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานฯ ที่วัดท่าหลวง พระอารามหลวง ในวันที่ 5-6 ก.ย.2552 จะมีความงดงามของบึงสีไฟให้ปรากฏเด่นชัด มิใช่เรื่องเพ้อฝันอีกด้วย

นายเจนศิลป์ เจริญบวรศักดิ์ หรือโกหย่ง เลขาฯ ส่วนตัวนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้นายประดิษฐ์ มีแนวคิดที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาบึงสีไฟ ซึ่งบ่อยครั้งที่ได้ลงพื้นที่เห็นความทรุดโทรมของบึงสีไฟ รวมไปถึงอาคารศาลากลางน้ำที่สร้างด้วยไม้มากว่า 50 ปีแล้ว ซึ่งสมัยนายวิศาล ภัทรประสิทธิ์ หรือเสี่ยย่งคุณ พ่อของนายประดิษฐ์ ภัทรเป็น ส.ส.พิจิตร พรรคพัฒนาจังหวัด ได้เป็นผู้บริจาคไม้ สร้างศาลาบึงสีไฟดังกล่าว จนสืบทอดมาถึงรุ่นลูก คือ นายประดิษฐ์-นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ จึงผลักดันงบประมาณจำนวน 90 ล้านบาทมาดำเนินการแล้วในปีงบประมาณ 2553