ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ชาวบ้านบึงอ้อ อ.ขามทะเลสอ โคราช กว่า 500 คน สุดทน โรงแป้งมันและลานมันปล่อยน้ำเสียทำบึงอ้อแหล่งอุปโภคบริโภคเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นมากว่า 3 ปี รวมตัวประท้วงปิดหน้าศาลากลาง เรียกร้องผู้ว่าฯ แก้ปัญหาด่วน แต่ไร้เงาพ่อเมือง หลังรอฟังคำตอบนาน ชาวบ้านบุกฝ่าแผงกั้นเหล็กปะทะตร.- อส.เข้าไปในศาลากลาง 2 ระลอก ก่อนที่ทางจังหวัดจะยอมสั่งปิด รง.แป้ง 7 วัน และ ปิดลานมัน 5 แห่งอีก 1 เดือน พร้อมตั้ง กก.ร่วมเข้าตรวจสอบและแก้ปัญหา สร้างความพอใจชาวบ้านยอมสลายชุมนุมโดยสงบ
วันนี้ (27 ก.ค.) ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นมา ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประชาชนบ้านบึงอ้อ หมู่ 1 และ บ้านบึงสมบูรณ์ หมู่ 9 ต.บึงอ้อ อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมากว่า 500 คน นำโดย นายจำเนียร นาคขุนทด ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาโรงงานแป้งมันและลานมันสำปะหลัง รวมจำนวน 6 แห่งใน อ.ขามทะเลสอ ปล่อยน้ำเน่าเสียลงสู่บึงอ้อแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคของประชาชนมานานกว่า 3 ปี ได้รวมตัวกันชุมนุมพร้อมเปิดเวทีปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงติดตั้งบนรถบรรทุก 6 ล้อ เรียกร้องให้ นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ออกมารับข้อเรียกร้องและช่วยเหลือดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยด่วน
ท่ามกลางการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองนครราชสีมา และ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) กว่า 200 นาย มารักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมตั้งแถวและนำแผงเหล็กมากั้นประจันหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อไม่ให้บุกเข้าไปด้านในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดได้ ซึ่งได้มีนักวิชาการและนักดนตรีเพื่อชีวิตร่วมขึ้นเวทีปราศรัย เช่น ผศ.ดร.สามารถ จับโจร อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, จุ๋ม ด่านเกวียน เป็นต้น
นายจำเนียร นาคขุนทด แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม เปิดเผยว่า ทางโรงงานอุตสาหกรรมแป้งมัน และลานมันสำปะหลังอีก 5 แห่ง ได้ปล่อยน้ำเสียลงบึงอ้อ ซึ่งเป็นบึงน้ำสาธารณะที่ชาวบ้านใช้เป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปา เพื่อการอุปโภคบริโภคหล่อเลี้ยงประชาชนในพื้นที่กว่า 5,000 คน มานาน กลายเป็นน้ำเสียส่งกลิ่นเหม็นเน่า ไม่สามารถนำมาใช้ได้มานานกว่า 3 ปี ชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด พร้อมจัดเวทีเสนอปัญหาในรูปแบบต่างๆ มานานนับปี แต่เคยไม่ได้รับการเหลียวแลแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ฉะนั้น วันนี้ชาวบ้านอดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว จึงได้รวมตัวกันมาขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัด โดยตรง และต้องการให้ทางจังหวัดสั่งปิดกิจการโรงงานแป้งมันและลานมันทันที เพราะสร้างปัญหามานาน และไม่ยอมปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น พร้อมให้โรงงานแป้งมันและลานมันรับผิดชอบด้วยการเข้าฟื้นฟูปรับสมดุลธรรมชาติในบึงอ้อให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยด่วนที่สุด และให้ดำเนินการตามกฎหมายกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นอกจากนี้ ขอให้โรงงานแป้งมันและลานมันจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาตลอดกว่า 3 ปี และให้ทางจังหวัดจัดหาน้ำดิบสำหรับอุปโภคบริโภคมาให้แก่ชาวบ้านใช้อย่างเพียงพอทั่วถึง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในช่วงระหว่างการแก้ไขปัญหา
ต่อมาเวลาประมาณ 09.45 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อผู้ว่าฯ นครราชสีมาไม่ยอมมาพะปะรับข้อเรียกร้อง และปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมนุมอดทนรอคำตอบจากทางจังหวัดอยู่เป็นเวลานาน กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้ตัดสินใจบุกฝ่าแผงเหล็กกั้น และกำแพงเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. เข้าไปภายในศาลากลางจังหวัด จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งผู้ชุมนุมสามารถบุกเข้าไปด้านในได้และมุ่งตรงขึ้นไปยังห้องทำงานของผู้ว่าฯนครราชสีมาบริเวณ ชั้น 2 แต่มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าห้องเท่านั้น ไม่พบนายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าฯนครราชสีมา แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีภารกิจออกไปปฏิบัติราชการยังต่างอำเภอ
จากนั้นหัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครราชสีมาได้เข้ามาเจรจากับผู้ชุมนุมให้ลงไปนั่งรออยู่ชั้นล่างเพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ปฏิบัติงาน ซึ่งใช้เวลาในการเจรจานานประมาณ 5 นาที กลุ่มผู้ชุมนุมจึงยอมลงไปนั่งคอยอยู่บริเวณศาลากลางชั้น 1 หน้าห้องสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด พร้อมได้ร้องเพลงฟ้อนรำคลายเครียดกันอย่างสนุกสนาน
ขณะที่ นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกประชุมด่วนอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมบรรดาแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน เวลาผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้ข้อตกลงร่วมกันโดย นายจำเนียร นาคขุนทด แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ได้มาแจ้งให้ชาวบ้านได้รับทราบว่า ทางจังหวัดรับปากที่จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องขในการสั่งปิดโรงแป้งมันและลานมันแล้ว และขอให้ทุกคนออกไปนั่งรอหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางอยู่ภายนอกด้านหน้าศาลากลางเช่นเดิม ซึ่งสร้างความพอใจให้ทุกคนและยอมออกไปโดยดี
กระทั่งเวลา 12.30 น.เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง หลังปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมนุมรออยู่นาน โดยทางจังหวัดไม่มีหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรออกมาแต่อย่างใด ชาวบ้านจึงได้ตั้งแถวและบุกฝ่าแผงกั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส.เข้าไปยังอาคารศาลากลางจังหวัดเป็นรอบที่ 2 เกิดการปะทะกันทำให้มีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บเล็กน้อยหลายคน ตำรวจบางคนถูกน้ำเสียจากบึงอ้อที่ชาวบ้านเตรียมมาสาดใส่
กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถฝ่าเข้าไปภายในอาคารศาลากลางได้สำเร็จอีกครั้ง และพยายามมุ่งไปยังห้องทำงาน นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ รองผู้ว่าฯนครราชสีมา ที่ได้พยายามเจรจาต่อรองกับกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจได้พยายามขวางกั้นและขอร้องไม่ให้ฝ่าเข้าไป
จากนั้นแกนนำผู้ชุมนุมได้ออกมาแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือสั่งปิดโรงงานแป้งมันและลานมันอย่างเป็นทางเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว และจะอ่านละเอียดให้ทราบผ่านเครื่องขยายเสียงบนเวทีรถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยอมถอนตัวออกจากภายในศาลากลาง มารวมตัวกันอยู่ภายนอกบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเช่นเดิม
นายจำเนียร นาคขุนทด แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ว่า ทางจังหวัดนครราชสีมาได้ทำหนังสือด่วนที่สุดให้สั่งปิดโรงงานอุตสาหกรรมแป้งมันโชคยืนยง อุตสาหกรรม เป็นการชั่วคราว 7 วัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (28 ก.ค.) เป็นต้นไป และให้ลานมันสำปะหลังอีก 5 แห่ง ประกอบด้วย ลานมันของ นายอุทัย ชินศักดิ์ชัย, ลานมัน บริษัท เอี่ยมธัญธร จำกัด, ลานมัน นายอภิสฤษฎ์ ภูเบศพุฒินันท์, ลานมัน นางรัชนี ชมดี และ ลานมัน นายชัยยันต์ บุญญนิรันด์ ปิดกิจการชั่วคราว และให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ส.ค. 2552 ลงนามโดย นายประวุฒิ ตั้งจรูญชัย อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
จากนั้น นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยยืนยันกับกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ทางจังหวัดได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านทั้งหมด พร้อมได้ตั้งคณะกรรมร่วมระหว่างภาครัฐกับตัวแทนกลุ่มชาวบ้านจำนวน 31 คน โดยมีตนเป็นประธานคณะกรรมการ เพื่อเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในโรงงานแป้งมันและลานมันพร้อมหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งได้นัดประชุมร่วมกันครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ค.) เวลา 16.30 น.ณ ที่ว่าการอำเภอขามทะเลสอ
รวมทั้งขอยืนว่า เจ้าหน้าที่และทางจังหวัดจะไม่แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมในวันนี้แต่อย่างใด ซึ่งได้สร้างความพอใจให้แก่กลุ่มชาวบ้านผู้เดือดร้อนและยอมสลายการชุมนุมปิดหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 5 ชั่วโมง ด้วยความสงบเรียบร้อยในเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันเดียวกันนี้ (27 ก.ค.)
