หนองคาย-ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดหนองคาย รวบเสี่ยรับเหมาเมืองหนองคาย อ้างฝนตกงานน้อย แถมติดหนี้นอกระบบหลายแสน จึงหันมาค้ายาบ้า
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 22 ก.ค. 52 ร.ต.อ.อดุลย์ ฉิมทับ รองหัวหน้าชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายหนึ่งเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง เยื้องกับสำนักงานขนส่งจังหวัดหนองคาย มักจะนำยาบ้ามาขายให้กับวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานทั่วไป จึงนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ โดยพบนายพิชิต บุตราช อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277 หมู่ 8 ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย ยืนอยู่ด้านหน้าร้านอาหารตามสั่ง
พอเห็นเจ้าหน้าที่ก็ตกใจแต่ยังไม่ทันได้วิ่งหนี เจ้าหน้าที่เข้าถึงตัวก่อน ตรวจค้นตัวพบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวาตัวที่นายพิชิตสวมใส่ จำนวน 25 เม็ด เงินสด 10,000 บาท และรับสารภาพว่าได้ซ่อนยาบ้าไว้ที่บ้านอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปตรวจยึด ได้ยาบ้าเพิ่มเติมอีก รวมทั้งสิ้นยาบ้า 215 เม็ด
จากการสอบสวนนายพิชิต ให้การรับสารภาพว่า ตนรับเหมาก่อสร้าง แต่ช่วงหน้าฝนนี้ไม่ค่อยมีงานเข้า ทำให้รายได้ไม่พอรายจ่าย และยังได้กู้เงินนอกระบบอีกหลายแสนบาท จึงหันมาค้ายาบ้า โดยติดต่อซื้อยาบ้าจากชายชาวลาวชื่ออุ่น เม็ดละ 100 บาท ท้าวอุ่นจะมารับเงินค่ายาบ้าก่อน
หลังจากนั้นวันถัดไปท้าวอุ่นจะนั่งเรือหางยาวนำยาบ้ามาวางไว้ริมฝั่งโขงตามจุดต่าง ๆ ในตัวเมืองหนองคาย แล้วโทรศัพท์บอกให้ตนไปรับยาบ้า หลังจากได้ยาบ้าแล้วก็จะนำมาขายให้กับวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานเม็ดละ 200 บาท ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 22 ก.ค. 52 ร.ต.อ.อดุลย์ ฉิมทับ รองหัวหน้าชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายหนึ่งเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง เยื้องกับสำนักงานขนส่งจังหวัดหนองคาย มักจะนำยาบ้ามาขายให้กับวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานทั่วไป จึงนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ โดยพบนายพิชิต บุตราช อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277 หมู่ 8 ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย ยืนอยู่ด้านหน้าร้านอาหารตามสั่ง
พอเห็นเจ้าหน้าที่ก็ตกใจแต่ยังไม่ทันได้วิ่งหนี เจ้าหน้าที่เข้าถึงตัวก่อน ตรวจค้นตัวพบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวาตัวที่นายพิชิตสวมใส่ จำนวน 25 เม็ด เงินสด 10,000 บาท และรับสารภาพว่าได้ซ่อนยาบ้าไว้ที่บ้านอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปตรวจยึด ได้ยาบ้าเพิ่มเติมอีก รวมทั้งสิ้นยาบ้า 215 เม็ด
จากการสอบสวนนายพิชิต ให้การรับสารภาพว่า ตนรับเหมาก่อสร้าง แต่ช่วงหน้าฝนนี้ไม่ค่อยมีงานเข้า ทำให้รายได้ไม่พอรายจ่าย และยังได้กู้เงินนอกระบบอีกหลายแสนบาท จึงหันมาค้ายาบ้า โดยติดต่อซื้อยาบ้าจากชายชาวลาวชื่ออุ่น เม็ดละ 100 บาท ท้าวอุ่นจะมารับเงินค่ายาบ้าก่อน
หลังจากนั้นวันถัดไปท้าวอุ่นจะนั่งเรือหางยาวนำยาบ้ามาวางไว้ริมฝั่งโขงตามจุดต่าง ๆ ในตัวเมืองหนองคาย แล้วโทรศัพท์บอกให้ตนไปรับยาบ้า หลังจากได้ยาบ้าแล้วก็จะนำมาขายให้กับวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานเม็ดละ 200 บาท ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
