หนองคาย - ศุลกากรหนองคาย เผาทำลายสารกาเฟอีน สารตั้งต้นยาเสพติด หลังตรวจยึดของกลางและจับกุมผู้ต้องหาลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2545 คดีถึงที่สิ้นสุด เจ้าหน้าที่จำหน่ายคดีด้วยการเผาทำลายของกลาง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (17 ก.ค.) ที่บริเวณลานจอดรถสินค้าด่านศุลกากรหนองคาย ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย นายชาติชาย ศุภคติธรรม ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร และนายภาสวิชย์ แสงอินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ได้เป็นประธานเผาทำลายสารกาเฟอีน จำนวน 80 กระสอบ บรรจุกระสอบละ 25 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 2,000 กิโลกรัม มูลค่า 460,000 บาท ซึ่งสารกาเฟอีนดังกล่าวจะถูกนำไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดหลายชนิด
โดยเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2545 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวนภาค 4 จับกุมผู้ต้องหา 5 คน ที่พยายามลักลอบนำสารกาเฟอีนที่นำมาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ
พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางสารกาเฟอีนทั้งหมด และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน บค 4121 หนองคาย ที่ใช้ในการกระทำความผิดที่บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ.โคกซวก ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย หลังจากนั้น ได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดดำเนินการตามกฎหมาย ศาลพิพากษาดำเนินการกับผู้กระทำความผิด และริบของกลางทั้งสารกาเฟอีนและรถยนต์
เมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงนำของกลางสารกาเฟอีนออกจำหน่ายด้วยวิธีการเผาทำลายตามกฎหมายศุลกากร
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (17 ก.ค.) ที่บริเวณลานจอดรถสินค้าด่านศุลกากรหนองคาย ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย นายชาติชาย ศุภคติธรรม ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร และนายภาสวิชย์ แสงอินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ได้เป็นประธานเผาทำลายสารกาเฟอีน จำนวน 80 กระสอบ บรรจุกระสอบละ 25 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 2,000 กิโลกรัม มูลค่า 460,000 บาท ซึ่งสารกาเฟอีนดังกล่าวจะถูกนำไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดหลายชนิด
โดยเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2545 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวนภาค 4 จับกุมผู้ต้องหา 5 คน ที่พยายามลักลอบนำสารกาเฟอีนที่นำมาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ
พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางสารกาเฟอีนทั้งหมด และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน บค 4121 หนองคาย ที่ใช้ในการกระทำความผิดที่บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ.โคกซวก ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย หลังจากนั้น ได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดดำเนินการตามกฎหมาย ศาลพิพากษาดำเนินการกับผู้กระทำความผิด และริบของกลางทั้งสารกาเฟอีนและรถยนต์
เมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงนำของกลางสารกาเฟอีนออกจำหน่ายด้วยวิธีการเผาทำลายตามกฎหมายศุลกากร