xs
xsm
sm
md
lg

เมืองน้ำดำตั้งศูนย์ ฉก.รับมือน้ำท่วม - อุตุฯ เตือนเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก-ดินถล่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์ตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม เพื่อรับมือปัญหาน้ำท่วมในช่วงหน้าฝน พร้อมย้ำทุกอำเภอเร่งสำรวจพนังกั้นน้ำ อ่างเก็บน้ำ จัดเตรียมอุปกรณ์ และบุคลากรรับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม

วันนี้ (14 ก.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 4 นายสุวิทย์ สุบงกฎ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี 2552 จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเตรียมความรับมือปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน โดยมีนายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมกว่า 50 คนเข้าร่วมประชุม

นายสุวิทย์ สุบงกฎ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูฝน และขณะนี้มีร่องความกดอากาศต่ำพัดผ่านเข้ามา ทำให้พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตก ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้สั่งให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังมาถึงนี้

โดยจังหวัดกาฬสินธุ์ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี 2552 จังหวัดกาฬสินธุ์ขึ้น เพื่อคอยอำนวยความสะดวก ประสานงาน ตลอดจนให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย

นอกจากนี้ยังแจ้งไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งให้จัดตั้งศูนย์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน และให้เตรียมเครื่องไม้ เครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากรไว้ให้การช่วยเหลือและรับแจ้งเหตุน้ำท่วมจากประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

นายสุวิทย์กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งออกสำรวจพนั่งกั้นน้ำ อ่างเก็บน้ำ สถานที่ราชการ สถานศึกษา วัด บ้านเรือนประชาชน และอื่นๆ ตลอดจนถนนหนทางที่เกิดความเสียหาย และที่มีความเสี่ยงแล้วให้รายงานเข้ามายังจังหวัดโดยเร่งด่วน เพื่อที่จะหาทางป้องกันปัญหาน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วม

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ของป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขณะนี้ยังไม่น่าห่าง เพราะจากการรายงานของชลประทานจังหวัดอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กทั้ง 18 แห่งมีความจุอยู่เพียง 52 % ซึ่งยังคงสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก

ส่วนเขื่อนลำปาวขณะนี้มีประมาณน้ำอยู่ที่ 567 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 39% ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมากเช่นกัน

ด้านนายสุพจน์ ปั้นทรัพย์ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า ในช่วงวันที่ 13-19 กรกฎาคมนี้ ยังมีร่องความกดอากาศต่ำพัดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกชุกหลายพื้นที่ โดยเฉพาะวันที่ 13-14 กรกฎาคม จะมีฝนตกชุกในหลายจังหวัดของภาคอีสาน

เพราะฉะนั้น ประชาชนในอาศัยอยู่ในพื้นที่เสียงภัย เช่นพื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ติดภูเขา โดยเฉาะเทือกเขาภูพาน ให้ติดตามข่าวสารของทางราชการอย่างใกล้ชิดและให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคนถล่มด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น