เชียงราย – นัดซ้อมใหญ่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต หรือ ERT ในพื้นที่เชียงราย 15-17 ก.ค.นี้ เตรียมพร้อมรับมือสาธารณภัยทุกรูปแบบ หลังเชียงรายเริ่มผจญวิกฤตน้ำป่า
นายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดตั้งชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต หรือ Emergency Response Team ใช้ชื่อย่อว่า ERT ขึ้น เพื่อสร้างชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤตที่เผชิญกับสาธารณภัยได้ทุกประเภท สามารถปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์บริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ และสนธิกำลังร่วมกับส่วนราชการอื่นได้ทันทีเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติฉุกเฉิน โดยชุดดังกล่าวมีกำหนดการฝึกซ้อมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อรองรับการเผชิญสถานการณ์จากอุทกภัยและโคลนถล่ม ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ค.นี้ ที่ อ.เชียงแสน เพื่อทดสอบการปฏิบัติหน้าที่เมื่อเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ขึ้นจริง
ในพื้นที่เชียงรายเริ่มผจญปัญหาน้ำป่าไหลหลากแล้ว โดยล่าสุดเมื่อ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา จากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาและทางกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าจะมีไปถึงวันที่ 14 ก.ค. ได้ทำให้น้ำจากเทือกเขาพื้นที่ ต.นางแล ไหลลงมาสู่แหล่งน้ำธรรมชาติสายต่างๆ และเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและถนนภายในหมู่บ้านแม่ปูคา หมู่ 13 ต.นางแล อ.เมือง เป็นผลทำให้ถนนพหลโยธินสายเชียงราย-แม่จัน ตรงปากทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมไปครึ่งหนึ่ง แต่ยังใช้ในการสัญจรผ่านไปมาได้ เพราะระดับน้ำไม่ลึกมากนักประมาณ 20-30 ซม. ทำให้บ้านเรือนราษฎรที่ขนข้าวของหนีน้ำไม่ทันได้รับความเสียหาย นอกจากนี้น้ำยังเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรประมาณ 50 หลังคาเรือน แต่เนื่องจากเป็นน้ำหลากลงมาจากภูเขาจึงทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากมีฝนตกเพิ่มเติมลงมาก็อาจจะเพิ่มระดับขึ้นได้ทุกเมื่อ
ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนทั่วจังหวัดที่มีบ้านเรือนในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น ลุ่มแม่น้ำ พื้นที่ต่ำ ใกล้เขตภูเขา ฯลฯ ให้เฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งดินพังทลายในระยะนี้อย่างใกล้ชิดรวมทั้งให้ติดตามข่าวจากสถานีอุตุนิยมวิทยาเป็นประจำด้วย
นายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดตั้งชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต หรือ Emergency Response Team ใช้ชื่อย่อว่า ERT ขึ้น เพื่อสร้างชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤตที่เผชิญกับสาธารณภัยได้ทุกประเภท สามารถปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์บริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ และสนธิกำลังร่วมกับส่วนราชการอื่นได้ทันทีเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติฉุกเฉิน โดยชุดดังกล่าวมีกำหนดการฝึกซ้อมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อรองรับการเผชิญสถานการณ์จากอุทกภัยและโคลนถล่ม ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ค.นี้ ที่ อ.เชียงแสน เพื่อทดสอบการปฏิบัติหน้าที่เมื่อเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ขึ้นจริง
ในพื้นที่เชียงรายเริ่มผจญปัญหาน้ำป่าไหลหลากแล้ว โดยล่าสุดเมื่อ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา จากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาและทางกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าจะมีไปถึงวันที่ 14 ก.ค. ได้ทำให้น้ำจากเทือกเขาพื้นที่ ต.นางแล ไหลลงมาสู่แหล่งน้ำธรรมชาติสายต่างๆ และเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและถนนภายในหมู่บ้านแม่ปูคา หมู่ 13 ต.นางแล อ.เมือง เป็นผลทำให้ถนนพหลโยธินสายเชียงราย-แม่จัน ตรงปากทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมไปครึ่งหนึ่ง แต่ยังใช้ในการสัญจรผ่านไปมาได้ เพราะระดับน้ำไม่ลึกมากนักประมาณ 20-30 ซม. ทำให้บ้านเรือนราษฎรที่ขนข้าวของหนีน้ำไม่ทันได้รับความเสียหาย นอกจากนี้น้ำยังเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรประมาณ 50 หลังคาเรือน แต่เนื่องจากเป็นน้ำหลากลงมาจากภูเขาจึงทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากมีฝนตกเพิ่มเติมลงมาก็อาจจะเพิ่มระดับขึ้นได้ทุกเมื่อ
ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนทั่วจังหวัดที่มีบ้านเรือนในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น ลุ่มแม่น้ำ พื้นที่ต่ำ ใกล้เขตภูเขา ฯลฯ ให้เฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งดินพังทลายในระยะนี้อย่างใกล้ชิดรวมทั้งให้ติดตามข่าวจากสถานีอุตุนิยมวิทยาเป็นประจำด้วย