ศูนย์ข่าวศรีราชา - คลื่นลมจัด ทัพเรือประกาศเตือนล่วงหน้ามาแล้ว 2 วัน เรือประมงไดหมึก 2 ลำ ยังฝืนกออกทะเล ผ่านอ่าวนาวิกโยธิน และแหลมปู่เจ้า เจอน้ำป่วน คลื่นใหญ่ ลมแรง ม้วนเรือจม 2 ลำ ลูกเรือและไต๋เรือ 10 คนจมหายไม่ทราบชะตากรรม
เมื่อเวลา 20.00 น.คินที่ผ่านมา (12 ก.ค.52) พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ ได้รับรายงานจาก นายทหารเวร ศูนย์ปฏิบัติการ ว่ามี นางสาว จันจริเรือประมงประเภทไดหมึกชื่อ เรือแหลมทองนำโชค เรือประเภทไดปลาหมึก ไต๋เรือชื่อ นายหลวง (ชาวไทย) ยาวประมาณ 5 วา 2 ศอก สีแดง มีคนประจำเรือทั้งหมด 6 คนได้จมหายไปบริเวณปากอ่าวแหลมปู่เจ้า เขากรมหลวงชุมพร ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ มีคนอยู่ในเรือจำนวน 6 คน ยังไม่ทราบชะตากรรม และเรืออัญชริกา เรือไดปลาหมึก ยาวประมาณ 4 วา 2 ศอก มีคนประจำเรือทั้งหมด 3 คน ไต๋เรือชื่อ นายราเชนทร์ ชมแสงแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/112 หมู่ที่ 5 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หรือ เต้ ได้จมหายบริเวณด้านหลังเกาะลิ้น ห่างจากเกาะคราม สัตหีบ ไปทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 4 ชั่วโมง พิกัด เหนือ 12.36 องศาตะวันออก 152 ปากอ่าวแหลมปู่เจ้า เขากรมหลวงชุมพร ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
หลังได้รับแจ้ง พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ เรือตรวจการณ์ หมายเลข 216 โดยมี เรือเอก กฤษณะ ชูสาย ผู้บังคับเรือ พร้อมลูกเรือออกไปตรวจสอบในสภาพคลื่นลมแรง คลื่นลมแปรปรวน บริเวณปากอ่าวแหลมปู่เจ้า ทางเข้าท่าเทียบเรือแหลมเทียน ไม่พบเรือและลูกเรือแต่อย่างใด และจากการสอบถามจาก นายสมหมาย (ไม่ทราบนามสกุล) ไต๋เรือนทีทอง ทราบว่าขณะที่เกิดคลื่นลมแรงในทะเลมาก ได้มีเรือประมงที่ออกทะเลรีบกลับเข้ายังฝั่งกัน และต่างคนต่างนำเรือเพื่อเอาตัวรอดจากคลื่นลม และจำเป็นต้องผ่านเข้ามาทางแหลมปู่เจ้า เขากรมหลวงชุมพร เพื่อที่จะหลบเข้าไปยังช่องเกาะตอหม้อ และเกาะพระ เพื่อหลบคลื่นลม แต่ปรากฏว่าเรือประมงชื่อ แหลมทองนำโชค ได้จมหายไปต่อหน้าต่อตา และเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้อัสดง อาการครึ้ม จึงไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ เรือพร้อมลูกเรือจมหายไปต่อหน้าต่อตา
ส่วนทางด้าน นางสาว จันจิรา ตรีจิต เจ้าของเรืออัญชริกา เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทราบว่าเรือจม เพราะก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 18.30 น.ได้โทรศัพท์เข้าไปหา นายราเชนทร์ ชมแสงแก้ว ไต๋เรือ เป็นคนรับสายพร้อมกับบอกว่าขณะนี้เรือถูกคลื่นลมกระหน่ำอย่างหนักน้ำเข้าเรือจนทำให้เครื่องยนต์ดับ เรือใกล้จมลงสู่ทะเล ไม่มีเรือลำไหนทราบและมาช่วยเหลือได้ ต่างคนต่างหนีเอาตัวรอดกันหมด และขณะนี้ไม่สามารถติดต่อกับไต๋เรือได้ ใน หมายเลข 085-3949890 คาดว่าเรือจมในทะเล ส่วนลูกเรืออาจใช้ถังน้ำช่วยเหลือตัวเองลอยคออยู่ในทะเลอย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 20.00 น.คินที่ผ่านมา (12 ก.ค.52) พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ ได้รับรายงานจาก นายทหารเวร ศูนย์ปฏิบัติการ ว่ามี นางสาว จันจริเรือประมงประเภทไดหมึกชื่อ เรือแหลมทองนำโชค เรือประเภทไดปลาหมึก ไต๋เรือชื่อ นายหลวง (ชาวไทย) ยาวประมาณ 5 วา 2 ศอก สีแดง มีคนประจำเรือทั้งหมด 6 คนได้จมหายไปบริเวณปากอ่าวแหลมปู่เจ้า เขากรมหลวงชุมพร ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ มีคนอยู่ในเรือจำนวน 6 คน ยังไม่ทราบชะตากรรม และเรืออัญชริกา เรือไดปลาหมึก ยาวประมาณ 4 วา 2 ศอก มีคนประจำเรือทั้งหมด 3 คน ไต๋เรือชื่อ นายราเชนทร์ ชมแสงแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/112 หมู่ที่ 5 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หรือ เต้ ได้จมหายบริเวณด้านหลังเกาะลิ้น ห่างจากเกาะคราม สัตหีบ ไปทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 4 ชั่วโมง พิกัด เหนือ 12.36 องศาตะวันออก 152 ปากอ่าวแหลมปู่เจ้า เขากรมหลวงชุมพร ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
หลังได้รับแจ้ง พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ เรือตรวจการณ์ หมายเลข 216 โดยมี เรือเอก กฤษณะ ชูสาย ผู้บังคับเรือ พร้อมลูกเรือออกไปตรวจสอบในสภาพคลื่นลมแรง คลื่นลมแปรปรวน บริเวณปากอ่าวแหลมปู่เจ้า ทางเข้าท่าเทียบเรือแหลมเทียน ไม่พบเรือและลูกเรือแต่อย่างใด และจากการสอบถามจาก นายสมหมาย (ไม่ทราบนามสกุล) ไต๋เรือนทีทอง ทราบว่าขณะที่เกิดคลื่นลมแรงในทะเลมาก ได้มีเรือประมงที่ออกทะเลรีบกลับเข้ายังฝั่งกัน และต่างคนต่างนำเรือเพื่อเอาตัวรอดจากคลื่นลม และจำเป็นต้องผ่านเข้ามาทางแหลมปู่เจ้า เขากรมหลวงชุมพร เพื่อที่จะหลบเข้าไปยังช่องเกาะตอหม้อ และเกาะพระ เพื่อหลบคลื่นลม แต่ปรากฏว่าเรือประมงชื่อ แหลมทองนำโชค ได้จมหายไปต่อหน้าต่อตา และเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้อัสดง อาการครึ้ม จึงไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ เรือพร้อมลูกเรือจมหายไปต่อหน้าต่อตา
ส่วนทางด้าน นางสาว จันจิรา ตรีจิต เจ้าของเรืออัญชริกา เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทราบว่าเรือจม เพราะก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 18.30 น.ได้โทรศัพท์เข้าไปหา นายราเชนทร์ ชมแสงแก้ว ไต๋เรือ เป็นคนรับสายพร้อมกับบอกว่าขณะนี้เรือถูกคลื่นลมกระหน่ำอย่างหนักน้ำเข้าเรือจนทำให้เครื่องยนต์ดับ เรือใกล้จมลงสู่ทะเล ไม่มีเรือลำไหนทราบและมาช่วยเหลือได้ ต่างคนต่างหนีเอาตัวรอดกันหมด และขณะนี้ไม่สามารถติดต่อกับไต๋เรือได้ ใน หมายเลข 085-3949890 คาดว่าเรือจมในทะเล ส่วนลูกเรืออาจใช้ถังน้ำช่วยเหลือตัวเองลอยคออยู่ในทะเลอย่างแน่นอน
