ศูนย์ข่าวศรีราชา –สถานการณ์การท่องเที่ยวในจ.ระยองและจันทบุรียังคึกคักต่อเนื่อง โดยเฉพาะจ.ระยอง นับจากงานเทศกาลผลไม้จนถึงปัจจุบันตัวเลขการจองห้องพัก ช่วงหยุดยาวยังเต็ม 100% เผยปัจจัยสำคัญมาจากการวางแผนโปรโมตการท่องเที่ยวในหัวเมืองใหญ่ต่างๆ และการเป็นพื้นที่ปลอดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนเบนเข็มจากเมืองพัทยาสู่ระยองและจันทบุรี ขณะนี้การลงทุนด้านที่พักทั้งบนบกและพื้นที่เกาะยังจะมีให้เห็นตลอดปี
นายปรเมศวร์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต 4 ( ระยอง- จันทบุรี) เผยถึงภาะวการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองและจันทบุรีว่า ยังคงเป็นไปตามปกติ โดยมีความคึกคักตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดระยอง ที่พบว่าแม้จะหมดช่วงเทศกาลผลไม้แต่ตัวเลขการจองห้องพักของโรงแรมต่างๆ ก็ยังคงเต็มต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว
ทั้งนี้คาดว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้พื้นที่จังหวัดระยองและจันทบุรี ได้รับการตอบรับจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างดีแม้ปัจจุบันประเทศไทยจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจก็คือ ผลจากการโหมโปรโมตการท่องเที่ยวและร่วมเปิดบูทส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้ง 2 จังหวัดในหัวเมืองท่องเที่ยวใหญ่และจังหวัดกลุ่มเป้า s,kp
นอกจากนั้นการเป็นพื้นที่ปลอดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยตัดสินใจจองห้องพักที่มีอยู่ใน 2 จังหวัดได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญข่าวการพบผู้ติดเชื้อของโรคดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา ยังทำให้ช่วงวันหยุดยาวนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนได้เบนเข็มการท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดระยองและเกาะต่างๆ ในพื้นที่ รวมถึงจังหวัดจันทบุรีมากยิ่งขึ้น
“ในช่วงเทศกาลผลไม้ยอดการเข้าพักของจังหวัดระยอง เติบโตจากปกติประมาณ 30% ซึ่งขณะนี้ก็ยังพบอีกว่าตัวเลขการจองห้องพักของโรงแรมต่างๆ ในช่วงวันหยุดยาวมีมากถึง 100% ส่วนสำคัญเป็นผลจากการที่เราจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเดินนโยบาย ท่องเที่ยวเมืองไทย ใครๆ ก็รัก ซึ่งทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยหันมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น และคาดว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ เช่นในปี 2551 การท่องเที่ยวของจังหวัดระยองและจันทบุรีจะเติบโตอีกมาก”
อย่างไรก็ดีจากรายงานตัวเลขทางการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองและจันทบุรีในปี 2551 พบว่า มีอัตราเติบโตลดลงจากปี 2550 ถึง 16% ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง และทำให้ 2 พื้นที่แห่งนี้มีรายได้ทางการท่องเที่ยวรวมกันประมาณ 9.5 พันล้านบาท
นายปรเมศวร์ ยังเผยถึงการลงทุนด้านที่พักโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดระยอง ทั้งบนบกและตามเกาะต่างๆ ในปี 2552 ว่าคึกคักไม่แพ้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากพื้นที่หลายแห่งจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนแล้ว ปัจจุบันยังมีการเปิดให้บริการโรงแรมระดับ 5 ดาวของเครือเกษมกิจในเขตตัวเมืองระยอง ส่วนในพื้นที่เกาะ ก็ได้รับแจ้งว่ามีการเพิ่มจำนวนห้องพักและขยายการลงทุนในบางจุดเช่นกันแม้จะไม่มากนักก็ตาม
นายปรเมศวร์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต 4 ( ระยอง- จันทบุรี) เผยถึงภาะวการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองและจันทบุรีว่า ยังคงเป็นไปตามปกติ โดยมีความคึกคักตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดระยอง ที่พบว่าแม้จะหมดช่วงเทศกาลผลไม้แต่ตัวเลขการจองห้องพักของโรงแรมต่างๆ ก็ยังคงเต็มต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว
ทั้งนี้คาดว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้พื้นที่จังหวัดระยองและจันทบุรี ได้รับการตอบรับจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างดีแม้ปัจจุบันประเทศไทยจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจก็คือ ผลจากการโหมโปรโมตการท่องเที่ยวและร่วมเปิดบูทส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้ง 2 จังหวัดในหัวเมืองท่องเที่ยวใหญ่และจังหวัดกลุ่มเป้า s,kp
นอกจากนั้นการเป็นพื้นที่ปลอดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยตัดสินใจจองห้องพักที่มีอยู่ใน 2 จังหวัดได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญข่าวการพบผู้ติดเชื้อของโรคดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา ยังทำให้ช่วงวันหยุดยาวนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนได้เบนเข็มการท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดระยองและเกาะต่างๆ ในพื้นที่ รวมถึงจังหวัดจันทบุรีมากยิ่งขึ้น
“ในช่วงเทศกาลผลไม้ยอดการเข้าพักของจังหวัดระยอง เติบโตจากปกติประมาณ 30% ซึ่งขณะนี้ก็ยังพบอีกว่าตัวเลขการจองห้องพักของโรงแรมต่างๆ ในช่วงวันหยุดยาวมีมากถึง 100% ส่วนสำคัญเป็นผลจากการที่เราจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเดินนโยบาย ท่องเที่ยวเมืองไทย ใครๆ ก็รัก ซึ่งทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยหันมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น และคาดว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ เช่นในปี 2551 การท่องเที่ยวของจังหวัดระยองและจันทบุรีจะเติบโตอีกมาก”
อย่างไรก็ดีจากรายงานตัวเลขทางการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองและจันทบุรีในปี 2551 พบว่า มีอัตราเติบโตลดลงจากปี 2550 ถึง 16% ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง และทำให้ 2 พื้นที่แห่งนี้มีรายได้ทางการท่องเที่ยวรวมกันประมาณ 9.5 พันล้านบาท
นายปรเมศวร์ ยังเผยถึงการลงทุนด้านที่พักโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดระยอง ทั้งบนบกและตามเกาะต่างๆ ในปี 2552 ว่าคึกคักไม่แพ้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากพื้นที่หลายแห่งจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนแล้ว ปัจจุบันยังมีการเปิดให้บริการโรงแรมระดับ 5 ดาวของเครือเกษมกิจในเขตตัวเมืองระยอง ส่วนในพื้นที่เกาะ ก็ได้รับแจ้งว่ามีการเพิ่มจำนวนห้องพักและขยายการลงทุนในบางจุดเช่นกันแม้จะไม่มากนักก็ตาม
