บุรีรัมย์ - ตำรวจบุรีรัมย์ระดมกำลัง 3,000 นาย อารักขานายกฯอภิสิทธิ์ ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ 3 อำเภอ กลางเดือน ก.ค.นี้ ด้านผู้ว่าฯ ลั่นไม่หวั่นม็อบเสื้อแดงถ่อยป่วน
วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น.นายมงคล สุระสัจจะ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เรียกประชุมหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของจังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบด้วย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ,รองผู้ว่าราชการจังหวัด, นายอำเภอ และ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุกแห่ง ที่ห้องประชุมธรรมจารีตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเตรียมการต้อนรับ และวางมาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ในกลางเดือน ก.ค.นี้ อย่างเข้มงวด เนื่องเกรงว่าจะมีกลุ่มคนไม่หวังดี หรือกลุ่มม็อบต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มม็อบเสื้อแดง มาสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวาย
นายมงคล กล่าวว่า ได้เตรียมการต้อนรับ นายอภิสิทธิ์ และคณะไว้พร้อมแล้ว โดยเฉพาะมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งประสานไปยังตำรวจและทหารในการสนับสนุนกำลังดูแลความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ขณะที่ส่วนหนึ่งก็จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าว
ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น นายมงคล กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงยังมีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในระหว่างนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ เพราะสามารถพูดคุยทำความเข้าใจกันได้ และขอยืนยันว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจ ต่อการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายกรัฐมนตรีและคณะ เพราะถือเป็นหน้าที่ของตนอยู่แล้วในการเตรียมการต้อนรับ และการวางมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งต้องพร้อมอยู่ตลอดเวลา
ด้าน พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจถูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางตำรวจภูธรภาค 3 และ ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วม 3,000 นาย ในการรักษาความปลอดภัย และป้องกันเหตุร้าย ระหว่างที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ลำปลายมาศ และ อ.แคนดง
“ได้ย้ำให้ตำรวจทุกนายรักษาความปลอดภัยตามเส้นทางที่นายกรัฐมนตรีผ่าน พร้อมทั้งยังได้กำชับให้ตำรวจในพื้นที่ จับตาสืบสวนหาข่าวในเชิงลึก หากมีการชุมนุมเคลื่อนไหวในกรณีใดก็ตาม ให้เข้าไปควบคุมดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” พล.ต.ต.สมบัติ กล่าว
